Tuesday, February 23, 2016

ความทุกข์จะเป็นสัญญาณเตือนให้เราปล่อยมือ

นุชานั่งเปิดดูไดอาร์รี่ที่ตัวเองจนบันทึกเมื่อปีที่แล้ว
จับใจความในเนื้อหาพบว่า มันช่างไม่มีความสุข

 "ตอนนั้นหัวใจเราเป็นอะไรกันแน่" 

ในบันทึกพร่ำบ่นเรียกร้อง เพื่อต้องการให้คนอื่นมาทำในสิ่งที่เราต้องการ ฉันรักเธอ เธอต้องรักฉันสิ

แต่ในเมื่อมันไม่ได้ดั่งใจ ใจของเราเลยทุกข์มาก 
เพราะเราบังคับคนอื่น ให้มาทำตามเราไม่ได้

เรื่องนี้สอนให้นุชารู้ดีและจะไม่ทำซ้ำอีกว่า..
อย่าไปพยามบังคับใคร ให้มาทำในสิ่งที่เราชอบ

หรือเมื่อเราทำดีที่สุดแล้วผลออกมาเป็นอย่างไร
เราทำได้แต่เป็นคนดูผล และยอมรับมันแค่นั้น

ความทุกข์ที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณให้ปล่อยมือจากบางสิ่งที่มันไม่ใช่

ตอนแรกอาจเสียใจมาก 
แต่เมื่อเรามองด้านที่ดีจะพบว่า มันมีเส้นทางที่เราสามารถเลือกเดินได้ดีกว่า

เราลองถามตัวเองดูซักครั้งนึงว่า
วันนี้เรารู้สึกไม่สบายใจกับอะไรอยู่รึเปล่า
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราต้องปล่อยและเดินต่อไป

นุชาเอาใจช่วยทุกคนนะครับ

มีใครบางคนรักเราเสมอ

เคยมั้ย!
เมื่อเจอปัญหาเราจะไม่พบทางออกในทันที
หน้ามืดตามัว ทำอย่างไรก็ไม่พบหนทางแก้

เพราะเราไม่เคยมองหาทางที่ดีๆ จึงไม่เคยพบ
ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานุชามีเรื่องกลุ้มใจมาก
หาทางออกแทบไม่เห็น ทำยังไงก็ไม่หาย

สิ่งที่ทำให้เรากังวลมากเราวัดจาก
ตัววัดที่สำคัญที่สุดคือ "จิตใจของเรา"
ว่าเราจะสามารถผ่านปัญหาไปได้ไหม ดีพอไหม?

นุชาโชคดีมากที่ มีครอบครัว และเพื่อนๆ
ช่วยอัดพลังใส่ไม่ให้ท้อ ทุกคนเป็นห่วงเรามาก
ชาร์ตพลังจนโทรศัพท์แทบไม่ว่าง

นุชาจึงค้นพบว่า กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมาก
ถึงแม้มันจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาของเรา
แต่มันทำให้เราเห็นทางทางในที่มืดมิดได้

เมื่อเราเจอปัญหาเรามักลืมตัวเองว่าเรามีคุณค่า
เราเคยทำอะไรที่ดีดีไว้มากมาย
เราทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับคนไว้แค่ไหน
ถ้าเราจำไม่เคยได้ว่าเราเป็นใคร เราจะท้อได้

คำพูดนึงที่แม่บอกนุชาว่า...
ไม่ว่าชีวิตเราจะเป็นอย่างไรก็ตาม จะมีแม่และพ่อเป็นกำลังใจให้แบบนี้ ถ้าเหนื่อยนักก็ให้พักก่อน
หายเหนื่อยแล้วค่อยก้าวเดินต่อไป

นุชาอาจลืมไปว่า แม่กับพ่อเหนื่อยขนาดไหน
อดทนทำงานหนักมามากขนาดไหน
กว่าที่จะทำให้นุชา เป็นนุชาอย่างทุกวันนี้ได้
จำให้ได้ว่าเป็นใคร...

ใครที่เจอปัญหาอะไรก็ตามอย่าท้อนะครับ
มีใครบางคนรักเราเสมอ 
อยากให้เรามีความสุขเสมอ
"จำให้ได้ว่าเราเป็นใคร แล้วเดินหน้าลุยต่อ"

นุชา

#รักพ่อแม่พี่สาวที่ฟังทุกปัญหา
#รักเพื่อนๆทุกคนที่ให้กำลังใจทั้งในเฟสและโทรศัพท์ไม่ขาดสาย
#ขอบคุณพี่แพรวที่ฟังนุชาพูดทุกวัน 
#ขอบคุณนาที่ช่วยเป็นธุระตอนไม่สบายใจตลอด 
#ขอบคุณน้องบิวน้องวาที่ฟังพี่ 
#ขอบคุณพี่เอญ่าที่ให้พลังและไม่ลืมทำความดีต่อ
#ขอบคุณทุกคนที่อ่านบทความนี้ครับ


Friday, February 5, 2016

[รีวิว ]เจลรักษารอยสิวเมเดอร์มา MEDERMA

หลายคนเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ลดรอยสิวคือเจ้าตัว MEDERMA


ซึ่งในอดีตนุชาไม่เคยใช้เพราะช่วงก่อนมรการทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว ซึ่งไม่อยากลองผลิตภัณฑ์อะไรมั่วๆ เพราะกลัวผิวแย่กว่าเดิม แต่หลังจากที่ยิงเลเซอร์เสร็จผลที่ได้คือ มีแผลและรอยดำจากสิวเยอะพอสมควร 


นุชาจึงได้ตัดสินใจไปซื้อเจ้าตัวลดรอยสิว MEDERMA ที่ร้านขายยาข้างกล่องเขียนราคาอยู๋ที 440 บาท แต่นุชาได้มาในราคา 270 บาท ขนาด 10 กรัม



MEDERMA มีส่วนผสมมีดังนี้คือ
  • Cepalin   10%  ** เป็นสารกัดหลักได้จากหัวหอมที่ช่วยในเรื่องรอยดำและรอยแดง
  • Allantoin   1% สารช่วยทำให้ Cepalin ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการคัน สมานแผล
  • Aqua  น้ำ
  • PEG-200 สารนำละลาย
  • Xantham Gum สารให้ความหนืด
  • Parfum น้ำหอม
  • Methylparaben สารกันเสีย
  • Sorbic acid สารกันเสีย


วิธีการใช้ที่นุชาใช้  MEDERMA  คือ 
ใช้ทาตรงในส่วนที่เป็นแผล และหลุมสิว รอยแดง และรอยดำ ไม่ทาตรงสิวนะครับ เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ หากใครจะใช้ควรรักษาสิวให้ดีขึ้นมากก่อน หรือทาเฉพาะแผลเท่านั้นครับ



ผลการทดลองใช้  MEDERMA  จากนุชา
หลังจากทดลองใช้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ผลว่ารอยแดง และ รอยดำจางลง แต่ไม่มีผลต่อหลุมสิว นุชาไม่แพ้ครับ ไม่รู้สึกแสบผิวหรือรู้สึกอะไรเลย แต่กลับชอบกลิ่นน้ำหอมของเจ้าตัวนี้ เพราะมันมันเป็นกลิ่นสมุนไพรหอมแบบแปลกดีครับ



MEDERMA ไม่เหมาะกับใครบ้าง
ผลิตภัณฑ์จะไม่เหมาะกับผู้แพ้น้ำหอม และสารกันเสีย Methylparaben (แต่พบน้อยมาก) เพราะสารกันเสียนี้ไม่มีข้อยืนยันได้ชัดเจนว่าทำให้เกิดสิว และเป็นสารกันเสียชนิดเดียวที่ประเทศญี่ปุ่นอนุญาตให้ใช้ในเครื่องสำอางครับ



ผลการวิจัย MEDERMA

เจล Mederma ได้มีการทดลองวิจัยในการนำมารักษารอยแผลเป็นนูน และคีลอยด์ ในหลายๆ ประเทศ ทำให้บทบาทการรักษาแผลเป็นรอยนูนได้ผลมากขึ้นเมื่อใช้ทารักษาควบคู่กับการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ ดังนั้นจะยก ตัวอย่างงานวิจัยที่รับรองผล 

1. งานวิจัยที่ประเทศโปแลนด์: Chadzynska และ Jabloska แพทย์ผิวหนังชาวโปแลนด์ ได้ทำการศึกษาโดยผลการใช้ Mederma ในแผลคีลอยด์จากแผลไฟใหม้ พบว่า Mederma ให้ผลการรักษาที่ดีอย่างมีนัยสำคัญทำให้คีลอยด์มีขนาดเล็กลงและแบนราบลงในผู้ป่วยมากกว่า 50% ลักษณะแผลเป็นนูนมีความนุ่มมากขึ้น สีของแผลดีขึ้น แต่ก็พบว่ามีอัตราการไม่ได้ผลจากการทายาประมาณ 10% 

2. งานวิจัยที่ประเทศเยอรมัน: Maragakis แพทย์ผิวหนังชาวเยอรมัน ได้ทดลองนำมารักษาคนไข้เด็กหลังผ่าตัดช่องอก 65 คน เพื่อป้องกันแผลเป็นพบว่าได้ผลดีมากถึง 52% เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอกที่ 32% โดนพบว่ากลุ่มที่ใช้ Mederma มีลักษณะแผลที่ดีกว่าและมีขนาดเล็กกว่ากลุ่มเปรียบเทียบที่ใช้ยาหลอก 

3. งานวิจัยที่ประเทศเยอรมัน: Willital แพทย์ผิวหนังชาวเยอรมัน และคณะ ได้ทำการศึกษาแบบเดียวกันกับ Maragakis แต่ให้ทายาเร็วขึ้น คือภายใน 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด พบว่ากลุ่มที่ทาด้วยยา Mederma บาดแผลจะกว้างเพียง 1 มม.(โดยเฉลี่ย) เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มเปรียบเทียบที่มีบาดแผลกว้างถึง 4 มม.(โดยเฉลี่ย) 

4. งานวิจัยที่ประเทศฟิลิปปินส์ : Prof. Navarro ศัลยแพทย์ตกแต่งชาวฟิลิปินส์ ได้ทดลองทาแผลเป็นนูน คีลอยด์ ในผู้ป่วย 81 คน พบว่าหลังการใช้ทายา 6 เดือน แผลเป็นนูนมีลักษณะดีขึ้น ราบลง สีผิวดีขึ้น ถึง 43 ราย 
ข้อบ่งชี้-วิธีใช้-ระยะเวลาในการใช้เจลทา Mederma 




ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tettsuya&date=23-05-2008&group=7&gblog=4




------------------
ติดตามนุชาที่เพจ : https://www.facebook.com/Diaryhome
คุยกันในไลน์ : http://line.me/ti/p/@mdt6242v
Line : @mdt6242v (มี@ข้างหน้า)
ผลิตภัณฑ์จากนุชา www.oranuchaskin.com