Wednesday, January 29, 2014

เคล็บลับการล้างหน้าเพื่อผิวใสไร้สิว สไตล์นุชา

สวัสดีครับ วันนี้นุชาจะมาพูดเกี่ยวกับเคล็บลับการล้างหน้าแบบต่างๆ ที่นุชาใช้ในการรักษาสิวด้วยตนเองจนสิวดีขึ้นมากๆ ครับ ซึ่ง หลายคนคงทราบว่าการล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิวนั้นต้องล้างตามแนวโพรงขนเท่านั้น แต่วันนี้นุชาจะมาอธิบายการล้างอย่างถูกต้องเพื่อให้การรักษาสิวและผิวหน้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


[1] วิธีล้างหน้าตามแนวโพรงขน ลดสิวได้จริง
วิธีการล้างหน้าตามแนวโพรงขนคงเป็นวิธีที่หลายๆ คนเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่หลายคนก็ยังไม่เคย วันนี้นุชาเลยอยากจะแนะนำว่าการล้างหน้าตามแนวโพรงขนทำอย่างไร การล้างหน้าตามแนวโพรงขนนั้น นุชาได้ยกตัวอย่างแนวทางการล้างหน้าตามภาพ

ซึ่งการล้างหน้าตามแนวโพรงขนนี้เป็นแนวคิดของ นพ.สมนึก อมรสิริพาณิชย์ ซึ่งเป็นวิธีการล้างหน้าอีกรูปแบบหนึ่งที่เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยมีแนวความคิดที่ว่า ใต้ผิวของเรานั้นจะประกอบไปด้วยโพรงขนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยโพรงขนนี้มีส่วนสำคัญในการเป็นแนวหรือแกนเพื่อให้เส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญให้ผิวของเรายึดเกาะ นั่นหมายถึงว่าเวลาที่เราล้างหน้า หรือกำลังถูสบู่อยู่บนหน้าตามปกติที่เราทำกันคือ ถูแบบวนไปวนมาเรื่อยๆ หรือถูแบบไม่มีรูปแบบตายตัว ถูแบบฟรีสไตล์ ก็จะทำให้เนื้อเยื่อที่อยู่ด้านบนแนวโพรงขน มันถูกขยุ้มตัวให้เป็นกระจุกๆ ทำให้สิ่งสกปรกมันหลุดออกไปไม่ดีเท่าทีควร และอาจเป็นสาเหตุของริ้วรอยอื่นๆบนหน้าของเราได้อีกด้วย

วิธีการล้างหน้าล้างหน้าตามแนวโพรงขน

  • วิธีการล้างหน้าตามแนวโพรงขน เริ่มจากการเทโฟมหรือสบู่ล้างหน้าลงบนฝ่ามือ จากนั้นผสมน้ำเล็กน้อยขยี้ด้วยมือทั้ง 2 ข้างเพื่อลดความเข้มข้นของสารเคมีลง แล้วก็เอาผ่ามือทั้ง 2 ข้างลูบโฟมล้างหน้าให้ทั่วหน้า
  • จากนั้นให้ใช้ปลายนิ้วของมือทั้ง 2 ข้างลูบไปตามทิศทางของลูกศรตามรูปข้างบน โดยไล่มาตั้งแต่หน้าผาก ลูบให้ออกมาทางด้านข้างของศรีษะทั้ง 2 ข้าง โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่กลางหน้าผาก
  • จากนั้นก็ไล่ลงมาที่จมูกลูบลงมาตั้งแต่บริเวณหัวตา มาที่ดั้ง ปลายขมูก และบริเวณด้านบนของปาก
  • จากนั้นลูบบริเวณแก้ม โหนกแก้ม โดยลูบออกทางด้านข้างตามลูกศร ไล่ให้ทั่วบริเวณ โดยถูเป็นทิศทางเดียวกันตลอด อย่าไปถูสวนขึ้นไปเด็ดขาด
  • สุดท้ายก็ถูบริเวณคางเป็นแนวดิ่งลง จากนั้นก็ล้างโฟมล้างหน้าออกกด้วยน้ำเปล่า เป็นอันเสร็จพิธี
เคล็ดลับการล้างหน้าตามแนวโพรงขนที่ดีนั้น ควรล้างอย่างเบามือที่สุด อย่าถูหน้าแรงเพราะจะทำให้วิธีที่เรากำลังทำอยู่นี้ศูนย์เปล่า และที่สำคัญให้ถูหน้าตามแนวลูกศรในรูป ห้ามถูสวนทางขึ้นมาเด็ดขาด ลองล้างหน้าตามแนวโพรงขนอย่างต่อเนื่องสัก 3 เดือนก็จะเห็นผลที่เกิดขึ้น คือ หน้าเราจะเป็นสิวน้อยลง ดูเรียบเนียนขึ้น


การล้างทำความสะอาดรอบดวงตาที่ถูกต้อง

โดยทั่วไปผิวชั้นขี้ไคลของผิวหน้าจะบางเท่าแผ่นฟิล์มห่ออาหารหน๋าประมาณ 0.02 มิลลิเมตร แต่ชั้นขี้ไคลบริเวณรอบดวงตานั้นจะยิ่งบางมากๆ บริเวณรอบดวงตาจะมีต่อมไขมันและต่อมเหงื่อยที่น้อยกว่าบริเวณส่วนอื่นของผิวหน้า ซึ่งการล้างรอบดวงตามแบบถูกไปถูมาแรงๆ จะทำให้น้ำมันหล่อเลี้ยงบริเวณนี้หายไป ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 48 ชม. กว่าจะกลับมาเป็นปกติ ดังนั้น "เวลาล้างหน้าให้ล้างบริเวณทีโซนเป็นหลัก ส่วนบริเวณรอบดวงตาให้ล้างอย่างเบามือ ก็เพียงพอ" 


ล้างหน้าอย่างไรให้สะอาดถึงรูขุมขน

 เป็นวิธีที่นุชาได้อ่านเจอในหนังสือ เคล็ดลับผิวใส สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งส่วนนี้จะมี แพทย์หญิงอาราตะ โทโมริ เป็นผู้แนะนำ ซึ่งหลายคนคิดว่าเมื่อเราใช้ตาข่ายทำความสะอาดสำหรับผิวหน้าที่มีฟองมากๆ และล้างหน้าอย่างพิถีพิถัน แต่ยังไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดเกลี้ยง ยังเหลือสิ่งสกปรกในรูขุมขน เนื่องจากเราไม่รู้ถึงวิธีการที่ถูกต้องในการใช้ฟองทำความสะอาดนั่นเอง การทำความสะอาดให้ลึกถึงรูขุมขนนั้นทำได้โดยใช้ฟองที่ตั้งแข็งดีแล้วลูบบนใบหน้า ให้ฟองอยู่ระหว่างผิวหน้ากับมือ แล้วตบเบาๆ โดยไม่ต้องเคลื่อนที่ ถ้าเราใช้ฟองถูไปมาฟองก็จะไหลไปเรื่อยๆ ไม่สามารถซึมลึกถึงรูขุมขนได้
[2] "บริเวณรอบจมูกซึ่งเรามักจะกังวลว่าสกปรกที่สุด ให้ตบบริเวณนั้นปรมาณ 30 วินาที สิ่งอุดตันทั้งหลายจะหลุดออกมา" 


อ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญ :
[1]  วิธีล้างหน้าตามแนวโพรงขน นพ. สมนึก อมรสิริพาณิชย์
[2]  แพทย์หญิงอาราตะ โทโมริ แพทย์ผิวหนัง อายุรแพทย์ความงาม ประเทศญี่ปุ่น


ติดตามความเคลื่อนไหวพูดคุยกันได้ที่
Line ID : Happynucha 
E-mail : happynucha.shop@gmail.com
ติดตามบล็อกสุขภาพ : http://happyacne2you.blogspot.com

Tuesday, January 28, 2014

ปฏิบัติการทดลองใช้น้ำมันมะพร้าว สำหรับคนเป็นสิว [ห้ามพลาด!]

สวัสดีครับ วันนี้นุชาจะมาเล่าประสบการณ์การรักษาสิว โดยการใช้น้ำมันมะพร้าว ทำเป็นคลีนซิ่งออยล์แทนที่ใช้อยู่นะครับ ซึ่งการทดลองนี้เกิดจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เข้ามาปรึกษาสิวได้ทดลองใช้บางคนก็บอกว่าดี บางคนก็บอกว่าไม่ดี ซึ่งนุชาก็ได้แต่ดูพี่ๆสนทนากัน และไม่สามารถตอบคำถามใดๆ ได้เลย เพราะไม่เคยทดลองใช้กับตัวเอง ผลการทดลองผ่านมาประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่ไม่ว่างที่จะอัพเดท ซึ่งผิวหน้าตอนนั้นเหมาะกับช่วงเวลาที่ทดลองมากเพราะเพิ่งสิวหายใหม่ๆ เลยต้องประเดิม !!


แต่... วันนี้นุชาได้ทดลองใช้กับตัวเองแล้ว จะนำข้อมูลและผลการทดลองใช้มาแบ่งปัน สำหรับผู้ที่กำลังอยากจะทดลอง หรือ ลังเลว่า จะใช้น้ำมันมะพร้าวทำความสะอาดใบหน้าเพื่อการรักษาสิวนะครับ

น้ำมันมะพร้าวมีส่วนประกอบดังนี้ :

  • กรดไขมันชนิดอิ่มตัว (Saturated fatty acid) 87 %
  • กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsatured fatty acid) 6 %
  • กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated fatty acid) 2 %
  • คอเรสเตอรอล ไม่มี

น้ำมัน มะพร้าวมีกรดไขมันชนิดพิเศษ มีจำนวนอะตอมสั้นและขนาดกลางซึ่ง 2 ใน 3 ส่วนเป็นขนาดกลาง 6-12 ตัว (medium-chain fatty acid) ซึ่งเป็นผลดี เพราะขนาดกรดไขมันชนิดนี้ สามารถถูกดูดซึมผ่านเข้ากระบวนการสันดาปในร่างกายเราได้ โดยไม่ต้องใช้ระบบ Carnitine ขนส่ง ทำให้ลดอันตรายต่อเซลล์ไปได้

กรด ไขมันในมะพร้าวนี้ 50 % เป็นกรดลอริค (Lauric acid) ซึ่งเปลี่ยนเป็น monolaurin ในร่างกาย กรดนี้มีผลในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ รา และไวรัสชนิดมีเปลือกหุ้ม เช่น เชื้อไวรัสเอดส์ เริม ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น น้ำมันมะพร้าวยังมีกรดคาปริค (capric acid) ประมาณ 7 % ซึ่งช่วยต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้เช่นกัน

Research/ ผลการวิจัย
ผลการตรวจวิเคราะห์คุณสมบัติทางเคมี และฟิสิกส์ องค์ประกอบน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 
"ภูมิดิน เนเชอรัล โปรดักส์"



{1} กรดคาปริกและโมโนคาปรินในน้ำมันมะพร้าว

            แม้ว่าจะมีอยู่เพียง 6-7 % แต่กรดคาปริก ก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพของโมโนลอริน โดยการเปลี่ยนแปลงเป็นสารโมโนคาปริน เมื่อน้ำมันมะพร้าวถูกบริโภคเข้าไปในร่างกาย ซึ่งมีฤทธิ์เช่นเดียวกันกับโมโนลอริน ทั้งนี้ก็เพราะประสิทธิภาพของการทำงานของโมโนลอริน และโมโนคาปรินขึ้นอยู่กับปริมาณที่มีอยู่

            วิตามิน น้ำมันมะพร้าว ที่ผลิตจากมะพร้าวแห้งที่เก็บไว้นาน ๆ จะมีจุลินทรีย์ปนเปื้อน ตลอดจนถูกแสงแดดและความร้อน เมื่อนำไปสกัดน้ำมันมะพร้าวโดยวิธีหีบหรือ การใช้ตัวทำละลาย จึงสูญเสียคุณสมบัติที่ดี โดยเฉพาะสิ่งที่ทำให้มันไม่หืน และเมื่อถูกนำไปผ่านขบวนการทางเคมี RBD คือ การทำให้บริสุทธิ์ การฟอกสี และกำจัดกลิ่น ก่อนที่จะนำไปบริโภคจะสูญเสียวิตมินอีไป แต่ก็ยังคงเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ ตราบใดที่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงทางเคมีโดยขบวนการเติมไฮโดรเจน โดยการเติมสารกันเสีย เพื่อรักษาสภาพให้คงทนและไม่หืน แต่น้ำมันมะพร้าวพรหมจรรย์ ซึ่งสกัดได้โดยวิธีหมัก หรือวิธีบีบเย็นไม่ใช้อุณหภูมิสูง และไม่ผ่านขบวนการทางเคมี จะยังคงมีวิตามินอีดังต่อไปนี้

            ต่อต้านอนุมูลอิสระ วิตามินอี ทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านการเติมออกซิเจน โดยการป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกเติมออกซิเจน ได้ง่าย ๆ ตั้งแต่เริ่มสกัด ตลอดจนระหว่างการขนส่ง การวางจำหน่าย และการเก็บรักษาก่อนบริโภค จึงเกิดเป็นอนุมูลอิสระได้ง่ายอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจะไปลบล้างประสิทธิภาพ ที่มีอยู่ในร่างกาย ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่มีเกิดผลเสียแก่เซลล์และเนื้อเยื่อ เนื่องจากอนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่เปลี่ยนสภาพโดยสูญเสียอีเล็กตรอน ในวงแหวนรอบนอก กลายเป็น โมเลกุลเกเร เที่ยวไปขโมยอีเล็กตรอนจากโมเลกุลที่อยู่ใกล้เคียง และโมเลกุลที่สูญเสียอีเล็กตรอนไปก็จะไปขโมยอีเล็กตรอนจากโมเลกุลข้างเคียงอื่น ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ เกิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ เป็นผลทำให้เซลล์วิปริตไป เช่น เกิดการกลายพันธ์ ฯลฯ ทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับความเสื่อม เช่นโรคมะเร็วหัวใจ มะเร็ง ไขข้ออักเสบ เบาหวาน โรคภูมิแพ้ ชราภาพก่อนวัย ฯลฯ
           ประกอบด้วยสารโทโคไทรอีนอลที่มีอานุภาพสูง วิตามินอีในน้ำมันมะพร้าว มีสารโทโคไทรอีนอล ซึ่งเป็นรูปของวิตามินอีที่มีคุณภาพสูงกว่าสารโทโคเฟอรอลซึ่งอยู่นวิตามินอีทั่วไป โดยเฉพาะที่มีอยู่ในเครื่องสำอางรักษาผิวถึง 40-50 เท่า ด้วยเหตุนี้ น้ำมันมะพร้าวจึงต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภา


ยกตัวอย่างบทความทางวิชาการมาซะยาว เพราะว่าอยากให้ทุกๆ ท่านที่กำลังอ่านทราบข้อเท็จจริงกันก่อนใช้น้ำมันมะพร้าว 


มาสรุปผลการทดลองใช้ของนุชา 
ระยะเวลาทดลอง 2 วัน นะครับ 
วิธีการใช้น้ำมันมะพร้าวของนุชา : จะใช้น้ำมะพร้าวปริมาณ 1 ช้อนช้า ชโลมทั่วหน้า ก่อนล้างหน้า เช้า - เย็น และเช็ดออกด้วยสำลี แล้วล้างหน้าตามด้วยผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ 

ความรู้สึก เวลาเช็ดทำความสะอาดด้วยสำลี ผิวหน้ายังคงไม่รู้สึกไม่สะอาด เพราะยังมีน้ำมันตกค้างบนผิวอยู่ แม้จะเช็ดออกด้วยสำลี 3 - 4 ครั้ง ก็ตาม 

อันนี้ภาพก่อนใช้เลยจร้า


สภาพผิวหน้า : ก่อนใช้น้ำมันมะพร้าว หน้าหายจากสิวแล้วประมาณ 80 % ยังคงมีรอยแดง และสิวอุดตันบางส่วน สภาพผิวค่อนข้างมัน และมีหลุมสิวเยอะมาก ณ ุจุดนี้ 

อันนี้ภาพหลังใช้หลังใช้ 2 วัน

สภาพผิวหน้า : ตามคาดอันนี้เพียง 2 วันเท่านั้นนะครับ เกิดการอุดตันเป็นสิวผดเม็ดเล็กๆ ขึ้นพรึมเลย ที่วงกลมในภาพเกิดการอักเสบแล้วนะครับ นุชาลองใช้เจลแต้มสิวคลินดาเอ็มแต้มแล้วไม่ยุบเลย ต้องใช้เข็มเจาะหัวหนองออกจึงจะหาย จึงบาย การใ้ช้น้ำมันมะพร้าวสำหรับการทดลองครั้งนี้ ส่วนตัวสรุปได้ว่า คนเป็นสิวไม่เหมาะกับการใช้น้ำมันมะพร้าวเอามาทาหน้าทุกกรณีเพราะจะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนครับ และทำความสะอาดได้อยากมาก แนะนำให้ใช้คลินซิ่งมิ้ล หรือ คลินซิ่งเวอเทอร์แทนจะดีกว่าครับ

เกร็ดฯการใช้คลีนซิ่งออยล์ จากหมอผิวหนัง
{2}พญ.ทวีรัตนา บุตรสุนทร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง แห่งโรงพยาบาลกรุงเทพ ได้ความว่า
ห้ามเด็ดขาด
       
       - สาวผิวมัน
       
       "โดยส่วนตัวหมอคิดว่า คลีนซิ่งออยล์ไม่เหมาะอย่างมาก กับคนผิวมัน"
       
       เหตุเพราะคลีนซิ่งออยล์ คือ น้ำมัน เพราะฉะนั้นหากเราใช้ในคนที่หน้ามันๆ ต่อมไขมันทำงานมาก เมื่อล้างน้ำมันส่วนที่เราใช้นี้ไม่หมดจะเกิดการอุดตัน" คุณหมอเตือนคนผิวมัน
       
       - สาวหน้าช้ำ ระทมสิว
       
       "และหากคนมีสิว ใช้คลีนซิ่งออยล์ล้างหน้า และล้างออกไม่หมดจะทำให้เกิดการอุดตันอย่างมาก"
       
       คุณหมอทวีรัตนา เล่าประสบการณ์ว่า ปัญหาของการอุดตันจนเกิดสิวจากการที่ใช้คลีนซิ่งออยล์ คุณหมอเจอเยอะมากสุด
       
       "หมอเจอคนไข้ที่สิวเห่อเพราะคลีนซิ่งออยล์เยอะมาก เราจะเห็นได้เลยว่าถ้าเป็นสิวอุดตัน จะมีหน้าตาแบบนี้ หมอจะถามเลยว่า คุณใช้อะไรล้างเครื่องสำอาง ทุกคนจะตอบเลยว่า เป็นคลีนซิ่งออยล์ส่วนใหญ่"

       ยิ่งใช้ไปสัก 3-6 เดือน สิวจะมารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมายเลยแหล่ะ คุณหมอบอก

       "เพราะตัวออยล์จะลงไปอุดตันในรูขุมขนหากเราล้างน้ำออกไม่หมด ออยล์ก็จะไปอุดแทน เพราะไขมันที่ร่างกายสร้างมันออกมาไม่ได้ มันเลยอุดตันผิว"
       

ข้อดี ต้องให้ดาว
       
       - คลีนซิ่งออยล์ล้างเมกอัพเกลี้ยงจริง!
       
       เมื่อออยล์ปะทะออยล์ เมกอัพติดทนที่ว่าแน่ยังต้องกระเจิง
       
       คุณหมอกูรูผิว ยืนยันข้อดีของคลีนซิ่งออยล์
       
       “คลีนซิ่งออยล์ล้างเมกอัพออกได้ง่าย เพราะคือ ออยล์ เมคอัพส่วนใหญ่มีส่วนผสมของออยล์ ดังนั้นออยล์มาเจอออยล์ทำให้จะล้างเครื่องสำอางออกได้ง่ายขึ้น
       
       แต่การที่เราใช้แค่คลีนซิ่งเจล หรือคลีนซิ่งโฟม ก็พอแล้วน่ะ สำหรับคนที่ไม่แต่งหน้า เพราะพวกนี้ก็เป็นตัวทำละลายไขมัน ถ้าเราใจเย็นๆ ล้างก็ออกเหมือนกัน"
       
       ตามด้วยคลีนเซอร์ ชัวร์ป้าบ
       
       ลบเมกอัพด้วยคลีนซิ่งออยล์ พร้อมตบท้ายด้วยโฟม เจล สบู่ ฯลฯ
       
       "หากอย่างไรก็ตาม ต้องการใช้คลีนซิ่งออยล์เพื่อลบเครื่องสำอาง ฉะนั้นหมอขอแนะนำให้ ใช้คลีนซิ่งออยล์เสร็จ แน่นอนหน้าต้องเหนียวหนืด เราจึงต้องล้างอีกรอบ ด้วยเจล หรือสบู่ โฟม ล้างเอาออยล์ออกให้เกลี้ยงเกลาจริงๆ เพื่อไม่ให้ทิ้งความหนืด หรือการอุดตันไว้อันเป็นบ่อเกิดแห่งสิวค่ะ"
       
       แต่...อย่าล้างหน้าหลายรอบมากจนฝืด ถูดังเอี๊ยด!
       
       “เวลาล้างหน้าอย่าล้างมากเสียจนหน้าแห้งเกินไปจนฝืด ให้มีน้ำมันบนหน้านิดหน่อยจะดี แต่อย่าให้ถึงขนาดล้างเสียจนหน้าตึงเปรี๊ยะ อ้าปากแล้วหน้าตึง แห้งเป็นขุย แบบนี้ก็ไม่สมควร”
       
       สุดท้าย คุณหมอฝากเตือน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตามลักษณะผิวของคุณ แต่ละคนพื้นฐานผิวต่างกัน อย่าเผลอโดนหลอก หรือโดนยัดเยียด เสียดายตังค์โดยใช่เหตุ
       
       “คลีนซิ่งครีม (Cleansing Cream) หรือ คลีนซิ่งมิลค์ (Cleansing Milk) จะเหมาะมากในคนผิวแห้ง แต่ถ้าเป็นคลีนซิ่งเจล(cleansing Gel)หรือโฟม จะใช้ในคนผิวมัน หรือผิวธรรมดา และพวกผิวทีโซน แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า เวลาเราไปเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง พนักงานจะเชียร์ให้ซื้อโน้นนี่ ลูกค้าก็จะได้คนละสองอย่าง เช่น คุณต้องใช้คลีนซิ่งครีม ต่อด้วยคลีนซิ่งมิลค์ก่อน หรือคลีนซิ่งออยล์ก่อนคลีนซิ่งเจล ซึ่งมันเป็นการทำความสะอาดซ้ำซ้อนค่ะ เลือกอย่าใดอย่างหนึ่งดีกว่า เพียงพอแล้ว”
        

นุชาหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังอยากจะทดลองรักษาสิวด้วยน้ำมันมะพร้าวไม่มากก็น้อย ผลการทดลองครั้งนี้ทดสอบกับผิวหน้านุชาเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เปรียบเทียบผลการทดลองกับสภาพผิว
อื่นๆ ครับ ขอบคุณครับ

ข้อมูลทางวิชาการอ้างอิงจาก  :
{1}ดร. ณรงค์ โฉมเฉลา.2548.เอกสารเผยแพร่ TNCEL (Thailand Network for the conversation and enhancement of landdraces of caltivated plants)
http://www.pumedin.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=30194
{2}http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9530000135401


XO , XO

Monday, January 27, 2014

I Have A Dream ฉันมีฝัน : เปลี่ยนหน้าสิวเป็นผิวใสด้วยตนเอง 27-1-2557

สวัสดีครับ ไม่ได้มาอัพเดทสภาพผิวของตัวเองเท่าไหร่ ไม่รู้จะตั้งชื่อโปรเจคนี้ว่าอะไรดี เลยขอตั้งชื่อว่า  I Have A Dream ฉันมีฝัน ปีนี้ตั้งใจอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่าง อยากที่จะรักตัวเองมากขึ้นไปอีกมาติดตามกันนะครับ่วาจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

มาอัพเดทสภาพผิวของตัวเองประจำวันที่ 27 มกราคม 2557 กันนะครับ

ตอนนี้ก็เหลือแต่รอยและหลุมสิว สิวอุดตันก็มีประมาณ 20% หน้าผากสิวเริ่มบูดออกมา จากที่เป้นอุดตันหัวดำแล้วเกิดการอักเสบ เวลาผ่านไปประมาณ 4 วันแล้วยังไม่ยุบเลย สงสัยมีของเสียข้างในต้องรอให้ผลัดเซลล์ถึงจะหายไป ส่วนผิวตรงอื่น เรียบสนิท ไฮโซมาก ขอบอก อิอิ





ที่สังเกตุได้คือ รูขุมขนเริ่มเรียงตัวสวย ไม่บิดเบี้ยวเหมือนแต่ก่อน หรืออาจเพราะเป็นผลมากจากเราล้างหน้าตามแนวโพรงขนด้วยนะครับ

รอยแดง... มันเกิดจากเส้นเลือดฝอยด้วยมันมาหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวเลยทำให้เกิดรอยแดง ซึ่งวิธีก็ไม่ต้องใช้อะไรเลย ต้องใช้เวลาหน่อยแต่หายไปได้เองแน่นอน ถ้าใจร้อนแนะนำเลเซอร์ V-Beam เลยจ้รา แต่ราคาแพง นุชาสู้ไม่ไหว ถ้าจะทำจริงๆ คงรักษาหลุมเลยดีกว่า 55555 จุดนี้ขอพึ่งน้ำมันฟักข้าวสกัดเย็นก่อนนะจะ

ผิวโดยรวมเท่าที่ดูโอเคขึ้นเลยนะครับ เ้ว้นแต่สิวที่หน้าผากเท่านั้นเอง --*

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการรักษาสิวด้วยตนเองที่ผ่านมา จะทำให้ทราบว่า เราประหยัดค่าใช้จ่ายมาก.......ขึ้น เรียนรู้่การดูแลผิวหน้าและสุขภาพของตััวเองที่หลากหลายมากขึ้น มีทางเลือกที่จะรักษา รู้จักผิวตัวเอง และสามารถช่วยเหลือหลายๆ คนที่ตกเป็นวงจรของสิวจากการใช้ผลิตภัณฑ์ราคาแพงที่เลิกใช้แล้วสิวบุกได้


แล้วพบกัน
XO

ผิวขาดน้ำรักษาด้วยตนเอง (ทำได้ใสไร้สิวแน่นอน)

สวัสดีครับช่วงนี้หลายๆ คนคงมีปัญหาสภาพผิวหน้าที่ต้องเป็นกันคือ "หน้าลอก" ซึ่งบางคนอาการไม่เยอะ บางคนเยอะมาก อย่างเช่นนุชาเป็นต้น ส่วนสาเหตุอาจจะเกิดมาจากสภาพอากาศ การล้างหน้าบ่อยครั้ง การไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใดๆ หรือ เกิดการการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวในช่วงการรักษาสิว ทำให้หน้าของเราแห้งลอกครับ

ทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ ผิวแห้งคือผิวขาดน้ำ แล้วทำไมผิวถึงขาดน้ำ ?



กลไกการรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง

ด้วยคุณสมบัติของเซลล์ผิวหนังชั้นนอก  หรือเซลล์ชั้นขี้ไคล  ช่วยให้ผิวหนังสามารถเก็บรักษาน้ำไว้ได้ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันเชื้อโรค  สารพิษทั้งจากธรรมชาติและที่มนุษย์ผลิตขึ้นและยังมีคุณสมบัติรักษาความชุ่ม ชื้น คือน้ำไว้ในและนอกเซลล์   ความ ชุ่มชื้นของผิวหนังที่พอเหมาะ คือ สภาวะที่ผิวหนังสามารถรักษาระดับน้ำให้คงอยู่ในเซลล์ผิวหนัง และระหว่างเซลล์ผิวหนังกำพร้าได้อย่างสมดุล  ผิวหนังจะชุ่มชื้น เรียบ นุ่มเนียน เต่งตึงและไม่เป็นขุย นอกจากนี้ระดับน้ำในชั้นหนังกำพร้ายังสัมพันธ์กับระดับน้ำในชั้นหนังแท้ ด้วย  ทั้งนี้ผิวหนังมีกลไกรักษาความชุ่มชื้นดังนี้




1. เซลล์ชั้นนอกสุด  หรือที่เรียกว่าชั้นขี้ไคล เป็นเซลล์ที่ไม่มีชีวิต มีไขมันหุ้มภายนอก  ถัดไปเป็นชั้นโปรตีนเป็นปลอกหุ้มเซลล์ผิวหนังชั้นนี้อีกชั้น และมีโปรตีนที่เรียกว่า เคอราติน  เป็นส่วนประกอบภายในเซลล์ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้น้ำทะลุผ่านเซลล์ผิวหนังออก สู่ภายนอก

2.ชั้นไขมันแทรกอยู่ระหว่างเซลล์ผิวหนังชั้นขี้ไคล ทำหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้น้ำในร่างกายซึมผ่านช่องระหว่างเซลล์ผิวหนังออกสู่ภายนอก

3. ไขมันจากต่อมไขมัน ที่หลั่งสารไขมันออกตามรูขุมขน  สารไขมันจะแผ่อออกเคลือบผิวของชั้นหนังกำพร้า  ป้องกันไม่ให้น้ำซึมผ่านเซลล์และช่องว่างระหว่างเซลล์ออกสู่ภายนอก

สรุป :  การรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังอาศัยคุณสมบัติของผิวหนังชั้นขี้ไคล  ชั้นไขมันที่แทรกอยู่ระหว่างเซลล์ผิวหนังชั้นขี้ไคล  และต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันมาเป็นเกราะไม่ให้น้ำซึมผ่านออกสู่ภายนอกผิวได้



ทำไมผิวจึงขาดน้ำ

ผิว ขาดน้ำเป็นผลจากการเสียน้ำออกจากผิวหนัง เกิดจากกลไกสำคัญ 3 ประการ โดยอาจเป็นผลจากกลไกใดกลไกหนึ่งหรือเกิดจากทั้ง 3 กลไก พร้อม ๆ กันได้  ดังนี้

1.ผิวลอกเป็นขุยจากความผิดปกติในการสร้าง ทำให้เสียเสียความสามารถในการรักษาน้ำไว้ที่ผิวหนัง

2.ชั้นหนังกำพร้ามีการหมุนเวียนเร็วกว่า ปกติทำให้ไม่มีเวลาพอในการสร้างผิวหนังชั้นนอกสุดหรือชั้นขี้ไคลที่สมบูรณ์ ได้ หนังกำพร้าชั้นนอกสุดมีส่วนประกอบเป็นชั้นไขมันแทรกอยู่ระหว่างเซลล์ผิว หนังชั้นขี้ไคล เมื่อผิวหนังที่มีการหมุนเวียนรวดเร็วจะไม่สามารถสร้างชั้น ไขมันได้ทัน จึงเสียความสามารถในการรักษาน้ำให้คงอยู่ในผิวหนัง   มักพบใน ผู้ที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการผลัดผิวในความเข้มข้นสูงและใช้ติดต่อกัน เป็นเวลานาน ผิวจะมีลักษณะบาง แดงง่าย

3. มีการทำลายของผิวหนังชั้นหนังกำพร้าจากสารเคมี เช่น detergents ทำให้สูญเสียไขมันชั้นหนังกำพร้าไป เป็นผลให้ผิวหนังสูญเสียน้ำออกสู่สิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้น


อาการแสดงของผิวมันขาดน้ำ  

1. ผิวภายนอกมีน้ำมันออกมาเคลือบ

2. เมื่อดูผิวใกล้ๆจะเห็นริ้วๆหรือกร้านๆ (ลองนึกภาพเวลาที่เราอยู่ใกล้ความร้อนนานๆ เช่น เวลาอยู่หน้าเตาตอนทำกับข้าว)

3. ลูบผิวดูจะรู้สึกว่าผิวไม่นุ่มเนียน ไม่เรียบ ถ้าเป็นมากอาจรู้สึกว่าผิวสากๆ

4. อาการจะเป็นมากประมาณสายๆหรือช่วงบ่ายของวัน พอซับมันแล้วเติมแป้งจะไม่เรียบเนียนเหมือนแต่งตอนเช้า    ผิวขาดน้ำ เกี่ยวกับ ผิวมัน อย่างไร  เมื่อผิวขาดน้ำ ก็เสมือนว่าผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวจะพยายามผลิตน้ำมันออกมาเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่เสียไป (ซึ่งเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ) จึงทำให้ผิวมีความมันมากกว่าปกติ ทั้งๆที่อาการขาดน้ำยังไม่ได้รับการแก้ไข  หากปล่อยไว้นานจะทำให้ผิวหนังสูญเสียการทำงาน ขาดความกระชับ ยืดหยุ่น และนำไปสู่ผิวอ่อนแอในที่สุด

มาดูกันว่า ผิวคุณ ขาดน้ำหรือเปล่า  ลองนับข้อเหล่านี้ดู ตรงกับตัวคุณมากเท่าไร แสดงว่าผิวคุณมีความเสี่ยงที่จะ " ขาดน้ำ" มากเท่านั้น

1.ดื่มน้ำน้อย

2.อยู่ในห้องแอร์เป็นส่วนใหญ่

3.ชอบอาบน้ำอุ่น

4.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำซึ่งมักพบใน ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้ผิวขาว

5.หลังจากล้างหน้าแล้วไม่รีบทา moisturizer ทันที

6.ไม่ค่อยใส่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นได้หรือไม่

7.ทาครีมบำรุงแล้วยังรูสึกว่าผิวสาก กร้าน (อาจมีขุยหรือไม่มีขุย) แต่ก็ยังมีน้ำมันออกมาเคลือบผิวตลอดเวลา ยิ่งซับก็ยิ่งมัน

8. ไม่ค่อยชอบทากันแดดหรือชอบลืมทาครีมกันแดด

9. ใช้ผลิตภณฑ์ล้างหน้าที่มีฤทธิ์ในการชะล้างรุนแรง

10. อายุมากกว่า 25 ปี


รักษาอย่างไรให้ผิวหายขาดน้ำสไตส์นุชา

1. อย่าล้างหน้าบ่อย ให้ล้างวันละ 2 รอบ เช้า - เย็น เท่านั้น

2. หลังจากล้างหน้าให้ทาตัวบำรุงผิวที่เป็นมอยเจอไรเซอร์ทันที ส่วนตัวนุชาใช้ เจลว่านหางจระเข้ โป๊ะหน๋าๆ ฉ่ำๆ เลย

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย คำนวณจากสูตรของ

องค์การอนามัยโลกได้กำหนดสูตรคำนวณปริมาณน้ำดื่มที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัวของ แต่ละคน ใน แต่ละวันไว้ดังนี้ น้ำหนักตัว (ก.ก.)/2 x 2.2 x30 = … C.C. (1000 C.C. = 1 ลิตร, 1 ลิตร = 5 แก้ว)

สมมติว่ามีน้ำหนักตัว 55 กิโลกรัม 55/2 x 2.2 x 30 = 1815 C.C. 1815 C.C. = 1.8 ลิตร 1.8 ลิตร = 9 แก้ว เมื่อทราบปริมาณน้ำดื่มต่อวันแล้ว จะต้องมีเทคนิคในการดื่มน้ำให้เกิดประโยชน์กับร่างกายมากที่สุดด้วย

4.ไม่ล้างหน้ารุนแรง ขัดผิวหน้าบ่อยๆ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิว

เพียงเท่านี้หน้าคุณก็จะหายลอกขาดน้ำ ผิวก็จะกลับมาสมดุลสวยใสไร้สิวอีกครั้งแล้วครับ


ขอบคุณข้อมูลจาก :
รศ.นพ.ป่วน  สุทธิพินิจธรรม
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ภาควิชาชาตวิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital

Thursday, January 23, 2014

เล่าประสบการณ์ : อึไม่ออกบอกเลย {สิวขึ้น}

หลายคนที่เข้ามาปรึกษาสิวกับนุชา บ่นว่าถ่ายไม่ออก หรือบางคนกว่าจะออกก็ 2-3 วัน ก็จะออกที รู้ไหมว่าการที่ไม่ขับถ่ายทุกวัน ทำให้สุขภาพของเราไม่ดี และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เจ้าสิววนเวียน เป็นๆ หายๆ เรื้อรัง อยู่นาน 100 ละ 90 % ที่เข้ามาปรึกษามีปัญหาระบบขับถ่ายแทบทั้งหมด

สาเหตุที่ทำให้อึไม่ออก 

จากที่นุชาได้ประสบปัญหากับตัวเองนั้น ขอยกตัวอย่างดังนี้
  • นอนดึกเกินไป สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ลำไส้ของเราทำงานไม่เต็มที่ไม่สามารถลำเลียงย่อยสลายของเสียที่ตกค้างในลำไส้เล็ได้ทัน เมื่อเรานอนดึกทุกวันจะสังเกตได้ว่าขับถ่ายไม่ออก หรือ กว่าจะออกก็เที่ยงกว่าๆ ไปแล้ว
  • เครียด บางทีการที่เราเครียดก็ทำให้อึไม่ออกได้เช่นเีดียวกัน 
  • ดื่มน้ำน้อย ทำให้ลำไส้ไม่สามารถขับเคลื่อนของเสียออกมาได้อย่างเต็มที่
  • ทานอาหารน้อย ไม่ตรงเวลา อย่าหวังที่จะให้อึเป็นเวลาเลยนะครับ
  • ไม่อยากอึ เหตุผลของหลายๆ คนรวมทั้งนุชาเป็นบ่อยมาก เช่น เวลาไปเข้าค่าย นุชาปวดอึจะเก็บและอั้นเอาไว้ได้ถึง 2 -3 วัน เลยทีเดียว
ทราบหรือไม่ว่าช่วงเวลา 7.00- 9.00 เวลาการทำงานของลำไส้ใหญ่ที่จะต้องขับถ่ายของเสียออกมาจากร่างกาย หากเกินเวลานี้ ลำไส้ใหญ่จะบีบตัวกลับไปยังลำไส้เล็กอีกครั้งและเข้าไปสู้กระเพราะเพื่อย่อยสลายอีกครั้ง คิดตามภาพว่าของเน่าเสียที่สะสมหลายวันจะเหม็นขนาดไหน ร่างกายก็จะดูดซึมกาซพิษ สารพิษเข้าไปในกระแสเลือดและสมองทดแทนออกซิเจน

เมื่อเลือดของเราไม่สะอาดแน่นอนละว่า เลือดนั้นจะไปหล่อเลี้ยงลำเลียงสารพิษเข้าสู่อวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ไต ปอด ผิวหนัง จึงไม่แปลกใจที่ว่าคนเป็นสิวเรื้อรัง ผิวพรรณไม่สดใส สิวไม่หายขาดส่วนมากจะระบบขับถ่ายไม่ดีครับ

วิธีแก้ไขและทำให้ระบบขับถ่ายกลับมาเป็นปกติ
  1. ปรับการนอนให้ได้  แนะนำให้นอนก่อน 5 ทุ่ม เพราะจะทำให้สามารถตื่นมาได้ในเวลา 6.00-7.00 โดยไม่เพลียและสามารถขับถ่ายได้ครับ
  2. .แนะนำการดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น 1 แก้ว ตามด้วยน้ำเปล่า 1 แก้ว หลังตื่นนอน จะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ถ่ายออกง่ายขึ้น
  3. ทานอาหารที่มีกากใย และผลไม้ทุกมื้ออาหารจะช่วยทำให้ลำไส้สามารถขับเคลื่อนของเสียออกมาได้ดียิ่งขึ้น
  4. ถ่ายยากมากทำทุกทางไม่ดีขึ้น แนะนำการทานโยเกริตเพื่อเพิ่มจำนวนของจุลินทรีย์ที่ดีให้กำลำไส้ และการทานสมุนไพรเพื่อกระตุ้นการทำงานของลำไส้ เช่น มะขามแขก มะขาม ขมิ้นชัน เป็นต้น

เล่าประสบการณ์ของตัวเองซะหน่อย....
นุชาเป็นคนหนึ่งที่ระบบขับถ่ายไม่ดีตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำจะนั่งนานมากกว่าจะออก และตอนเด็กๆ จะมีนิสัยไม่ชอบทานผักจะทานเนื้อสัตว์เยอะมากและที่เชียงรายที่บ้านจะทานข้าวเหนียวด้วย จึงทำให้ระบบขับถ่ายของนุชาตั้งแต่ยังเด็กแย่มาก ณ ตอนนั้นเป็นเด็กก็จะถ่าย 2-3 วัน ถึงจะถ่าย 1 ครั้ง พอมารู้ข้อมูลตอนนี้ถือว่าอันตรายมากเลยไม่น่าผิวพรรณเมื่อตอนเด็กทำไมไม่สดใส ดำคล้ำ โทรมมาก....

ก้าวผ่านเวลาจนอายุ 18-19 ปี นุชาเริ่มเป็นสิวที่หน้าแบบเริ่มมา จนเยอะมาก ประกอบกับรักษาตัวเองด้วยธรรมชาติด้วยมั้งครับและเริ่มปรับระบบขับถ่ายของตัวเองตั้งแต่นั้นเรื่อยมา ช่วงแรกนุชาจะเริ่มทำตามสูตร การทานน้ำอุ่นผสมมะนาว และ ทดลองทานน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ จนกระทั้งท้ายที่สุดมาทานสมุนไพรเพื่อปรับลำไส้ครับ ซึ่งตอนนี้ก็ทำมาเรื่อยๆ ผ่านมา 1 - 2 ปี ผิวพรรณลำตัวต่างจากแต่ก่อนมาก ผิวพรรณสดใสแม้กระทั่งเป็นสิวอยู่ก็รู้ว่าผิวขาวสว่างในระดับนึงครับ แต่ถ้าวันไหนที่ไม่ขับถ่ายเลย สิวอักเสบก็จะขึ้นเลยครับ จึงทำให้ต้องปรับระบบขับถ่ายของตัวเองทุกวัน ต้องออกทุกวันครับ

ลองมาดูกันว่าสุขภาพของตัวเองดีหรือไม่ ดูภาพได้เลยน่ารักมาก (จะถ่ายของตัวเองมาให้ดูก็กะไร อิอิ)


XO XO , พบกันใหม่บทความหน้าครับ

THE BEST-BAD Cleansing For Acne คลินซิ่งสำหรับคนเป็นสิว เท่าที่เคยใช้

Hello !! พบกับบทความใหม่ตามคำสัญญา วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ และรีวิวผลิตภัณฑ์ที่เป็น THE BEST-BAD Cleansing For Acne หรือ สุดยอด-สุดแย่ ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้า ที่นุชาทดลองใช้แล้วดี ใช้แล้วเวิร์ค ใช้แล้วแจ่ม สิวไม่ขึ้น บร๊ะๆ มาดูกันเลยครับ


1. Bioderma Sensibio H2O



คงไม่มีใครไม่รู้จักคลินซิ่งตัวนี้เพราะโด่งดังมาก จากผลการสำรวจยอดขาย 6 ขวดภายใน 1 วินาที อุต๊ะ แสดงว่าต้องเลิศจริงแน่ๆ นุชาจึงได้สอยมาใช้ ปรากฏว่าเป้นไปตามคาด เป็นตัว THE BEST ของนุชาจริงๆ เพราะทำความสะอาดผิวหน้าได้หมดจดและสะอาด บอบบาง แม้กระทั่งเช็ดรอบดวงตา เปือกตา เจ้านี่ก็ทำได้ครบครัน

ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์ 
น้ำ

กลิ่น
กลิ่นจะแปลกๆ แต่ไม่เหม็น อธิบายไม่ถูกจริงๆ

รีวิวผลการใช้
นุชาใช้มาใกล้จะหมดขวดแล้ว ก็ปาไปเดือนกว่าๆ และไม่แพ้ ไม่แสบไม่คันผิวเลย รู้สึกว่าใช้แล้วสิวไม่ขึ้นเพิ่มเลย แตกต่างกับคลินซิ่งตัวอื่นคือสามารถเช็ดรอบดวงตา และผิวหน้าโดยไม่แสบผิวเลยละครับ และตัวนี้สามารถใช้เช็ดทำความสะอาดผิวก่อนล้างหน้า และสามารถใช้เป็นโทนเนอร์หลังล้างหน้าก็ได้ มันเจ๋งมาก ณ จุดนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าสูตรนี้มันไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และแอลกอฮอร์คนผิวแพ้ง่าย มีสิว เหมาะสมสำหรับการใช้ตัวนี้เป็นอย่างมาก จึงยกตัวนี้ให้เป็น THE BEST ให้เลยนะครับ

ส่วนผสม
แปะไว้ก่อนเดี๋ยวมาอัพให้จ้า

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเลือกใช้
  • เหมาะกับผิวแพ้ง่าย 
  • เหมาะกับคนเป็นสิวทุกระดับ
  • อ่อรโยน เช็ดรอบดวงตาได้
  • เป็นทั้งคลินซิ่ง และโทนเนอร์
ข้อดี
  • ทำความสะอาดได้ดีมาก
ข้อเสีย
  • ราคาแพง


2. L'oreal Gentle Cleansing milk 



หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา เป็นคลินซิ่งในลักษณะของน้ำนม ที่ Blogger และคนเป็นสิว เขาแนะนำกันมาครับ ส่วนตัวถือว่าค่อนข้างโอเค ระดับนึงครับ

ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์
เนื้อน้ำนมเหลว

กลิ่น 
ไม่ใช่กลิ่นน้ำนมนะครับ จะเป็นกลิ่นของเขาเลยส่วนตัวรู้สึกชอบแต่รู้สึกจะฉุนน้ำหอมที่ใส่มากไปหน่อยครับ

รีวิวผลการใช้

ส่วนตัวใช้ต่อเนื่องมาประมาณ 6 ขวดได้แล้วครับ 1 ขวดอยู้ได้หลายเดือนมาก เพราะนุชาไม่ได้ใช้ทุกวัน จะใช้แต่ช่วงที่ทากันแดดหรือแป้ง เท่านั้นครับ เลยอยู่ได้นาน เหตุผลที่เจอตัวนี้ไปเห็นเขารีวิวในเว็บ ในเพจ ว่าดี.... แต่ส่วนตัวแล้วพบว่า ผลิตภัณฑ์นี้จะไม่ค่อยเหมาะกับผิวที่เป็นสิวเรื้อรังมากๆ สิวอักเสบ สิวหนองครับ เพราะคิดว่าทำให้เกิดการระคายเคืองได้อยู่ครับ

มีอยู่ช่วงนึงที่สิวเห่อมากเพระาหยุดใช้ครีมตัวนุง เลยใช้คลินซิ่งตัวนี้ปรากฏว่าแสบผิวมาก แต่ถ้าสิวไม่เยอะเป็นอุดตัน สิวประปรายใช้ได้อยู่ครับ อาจเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวสำหรับผู้เป็นสิวระดับกลางๆ ที่ควรเลือกใช้ครับ แต่ถ้าหนักๆ ต้องบายตัวนี้เลยครับ

ส่วนผสม
แปะไว้ก่อนเดี๋ยวมาอัพให้จ้า

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเลือกใช้
  • เหมาะสำหรับผิวเป็นสิวระดับกลาง 
  • ไม่เหมาะกับผิวที่สิวรุนแรง
  • ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของน้ำหอมแพ้้น้ำหอมงดได้นะจะ
ข้อดี
  • ทำความสะอาดได้ดีระดับปานกลาง
ข้อเสีย
  • มีน้ำหอม
ติดตามความเคลื่อนไหวพูดคุยกันได้ที่
Line ID : Happynucha 
E-mail : happynucha.shop@gmail.com
ติดตามบล็อกสุขภาพ : http://happyacne2you.blogspot.com

Friday, January 17, 2014

สัปดาห์ที่ 14-22 อัพเดท ผลการักษาสิวน้องไก่ {เคสรักษาสิวฟรี} ปี 2557

หลังจากห่างหายไปนาน นุชาก็ไม่ได้มาอัพเดทอาการของน้องไก่ให้หลายๆ คนทราบเลยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง สืบเนื่องจากบทความที่แล้ว อัพเดทการรักษาสิวของน้องไก่ได้ที่นี่ครับ http://happyacne2you.blogspot.com/2013/11/by.html

ผลการรักษาสิวสัปหาด์ที่ 22 วันที่ 12 มกราคม 2556
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้
1.สบู่
2.ครีมว่านหางจระเข้
3.น้ำเกลือ
4.Enzoxid 2.5

ขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์
เช้า : ล้างหน้าด้วยสบู่ เช็ดด้วยน้ำเกลือแล้วทาเจลว่านหางจระเข้ค่ะ
เย็น : ล้างหน้าด้วยสบู่ เช็ดน้ำเกลือ ทาเจลว่านหางจระเข้ค่ะ

ความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวสภาพผิวที่สังเกตได้ (สิวขึ้น สิวลด รอยสิว หน้าแห้ง ลอก ฯลฯ) 






Thursday, January 16, 2014

{ พลีชีพ } เคสรักษาสิวพี่แอม แฉแหลกใช้ครีมรักษาสิวในเน็ตหน้าพัง

สวัสดีครับ วันนี้นุชาจะมารีวิวผลการรักษาสิวจากประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ของพี่แอมที่แอบไปใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวจากในอินเตอร์เน็ตแล้วหน้าพังครับ



พี่แอมได้เล่าให้นุชาฟังว่าเดือนก่อน ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2556 ตอนแรกผิวหน้าดีขึ้นมากแล้วสิวหายแล้ว แต่ได้ไปเปลี่ยนผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าใหม่ โดยสั่งซื้อผ่านทางอินเตอร์เน็ต ยี่ห้อนึง
ซึ่งผลิตภัณฑ์ "เครมว่า สามารถล้างพิษผิว ฟื้นฟูผิว จากสารเคมีได้ "  เมื่อพี่แอมเริ่มใช้เพียง 1 วัน ก็แสดงอาการ แสบผิวหน้า และมีอาการคันร่วมด้วยทั้งๆ ที่พี่แอมนั้นปรับระบบภายในเหมือนเดิมทุกอย่าง 

เมื่อพี่แอมได้พูดคุยกับนุชทางโทรศัพท์และส่งข้อมูลและรูปสภาพผิวหน้ามาทาง Line แล้ว นุชา วิเคราะห์สภาพผิวได้เลยว่า แพ้ผลิตภัณฑ์ 100% ครับ ส่วนตัวนุชาไม่ค่อยจะเชื่อผลิตภัณฑ์ที่เครมว่าล้างสารพิษตกค้างบนผิวมากเท่าไหร่เพราะไม่น่าจะมีสารไหนที่จพดูดสารพิษที่ตกค้างในเซลล์ผิวของเราได้ แต่เคยได้ยินมาว่า ถ่านไม้ไผ่ โคลนทะเล ก็สามรถทำได้ แต่ยังไม่เคยลองนะครับ เอาล่ะๆ เข้าเรื่อง...

ภาพหน้าสด แพ้ผลิตภัณฑ์วันแรก ผื่นขึ้นทั้งหน้าเลย ความจริงเยอะกว่าในรูป
แต่ถ่ายออกมาทำไมไม่เยอะ อิอิ
หลังจากดูสภาพผิวและอาการผิวหน้าแล้ว นุชาจึงแนะนำผลิตภัณฑ์ให้พี่แอมใช้ดังนี้
  1. ยาแก้แพ้อีซาร่า = ลดอาการแพ้ครีม
  2. เอคเน่ิอิ = ล้างหน้าลดสิว
  3. ฟักข้าวสกัด = เพื่อลดการอักเสบ

ส่วนตัวที่พี่แอมมีอยู่แล้วก็ใช้ต่อไปได้ ก็จะมี คลินซิ่งของ Bioderma , และตัวแต้มสิวของสมูทอี 



ขั้นตอนการรักษา
  • แนะนำให้พี่แอมทายาแก้แพ้อีซาร่าทุกวัน เช้า - เย็น งดการแต่งหน้า ทารองพื้นทุกชนิด เพื่อลดอัตราการอุดตันของรูขุมขน
  • เปลี่ยนตัวล้างหน้ามาเป็นเอคเน่อิดสูตรสีฟ้า เพราะพี่แอมผิวค่อนข้างแห้งบอบบางและแพ้ง่าย
  • และแต้มสิวอักเสบด้วยสมูทอี
  • ทานฟักข้าวสกัดหลังอาหาร ครั้งละ 2 แคปซูล เพื่อลดการอักเสบของผิวหนัง
  • ที่สำคัญที่สุดคือห้ามท้องผูก ต้องขับถ่ายให้ได้ทุกวันครับ
จากนั้นก็อาศัยระยะเวลา ซึ่งผ่านไปไม่นานไม่เกิน 1 เดือน ผิวของพี่แอมก็กลับมาปกติดีแล้ว มาชมภาพกันนะครับ










จะเห็นได้เลยว่าผิวของพี่แอมดีขึ้นจนเหลือแต่รอยสิวครับ นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและอาการอย่างเคร่งครัดแล้วยังต้องปรับจากระบบภายในไม่นอนดึก ทานผักผลไม้ และดื่มน้ำเยอะๆ ร่วมด้วยครับ 

อยากแนะนำสำหรับผู้ที่รักษาสิวอยู่แต่อยากจะซื้อครีมใช้เอง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ไม่กล่าวเกินจริง และควรใช้วิจารณาอย่างรอบครอบผิวหน้าจะได้ไม่เสียหายไปกว่าเดิมนะครับ 

สำหรับการรักษาสิวเคสพี่แอมคงต้องจบเพียงเท่านี้ หากพี่แอมได้อัพเดทสภาพผิวหน้า จากการรักษารอยสิว มีความคืบหน้าอย่างไร นุชาจะมาอัพเดทให้ทราบอีกครั้งหนึ่งนะครับ
บ้าย ย ย ย ย ย  บายยยยย พบกันบทความหน้าครับ

16/1/2556   23:22 PM.

- NUCHA BLOGGER - 


ติดตามความเคลื่อนไหวพูดคุยกันได้ที่
Line ID : Happy Nucha
E-mail : happynucha.shop@gmail.com
ติดตามบล็อกสุขภาพ : http://happyacne2you.blogspot.com


Tuesday, January 14, 2014

การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้า สำหรับคนเป็นสิว

อันยอง.... สวัสดีครับ วันนี้นุชาจะมาเล่าเกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าของตัวเองกันนะครับว่า เมื่อเราเป็นสิวเราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อะไรที่จะเหมาะกับผิวของเรานะครับ

โดยทั่วไปแล้ว ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดจะผลิตสินค้าออกมาหลายรูปแบบ ทั้งเป็นในรูปแบบเจลไม่มีฟอง เจลใสมีฟอง โฟมผสมสคลับ โดยแท้จริงแล้วเมื่อเราพลิกดูส่วนผสมของผลิตภัณฑ์แล้วก็คล้ายกันไปซะหมด

นุชาจึงแนะนำการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่ละสภาพผิวที่เป็นสิวดังนี้นะครับ 

ผิวมัน,ผิวผสม : ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ BHA , AHA หรือ Salicylic acid สารเหล่านี้จะช่วยทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิวของเราอย่่างอ่อนโยนและไม่ทำให้รูขุมขนเกิดการอุนตันครับ อาจจะเลือกในรูปแบบของเจล หรือ โฟม 



ผิวแห้ง แพ้ง่าย : ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดเจลไม่ควรมีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิวที่เข้มข้น ส่วนมากหากผิวนุชาแห้ง นุชาจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง แตงกวา และเครมว่าช่วยรักษาระดับความชึ่มชื่นของผิวครับ

สิ่งที่ไม่ควรนำมาล้างหน้า
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ควรนำสบู่ก้อนอาบน้ำ หรือ สบู่เหลวสำหรับตัว มาล้างหน้าเด็ดขาดเพราะส่วนผสมของสบู่ก้อนถูตัวนั้นส่วนมากจะทำให้น้ำมันบนผิวหน้าของเราถูกชะล้างออกไปหมดจะทำให้ผิวขาดสมดุลและเกิดสิวอักเสบได้มาก และไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสาร SLS ด้วยครับ 




Monday, January 13, 2014

Bunton น้ำแร่ไทยรักษาสิว น้ำแร่ถ่านไม้ไผ่ ของไทยที่เจ๋งที่สุด

ฮัลโหลลลล วันนี้นุชาจะมารีวิวผลิตภัณฑ์น้ำแร่ของไทย ที่เพิ่งได้มีโอกาสได้ใช้ ไม่ได้แค่ทดลองนะ ใช้เองเลย เลยจะมาบอกต่อว่าวันเป็นยังไง คุ้มค่าไหม ดีอย่างไร ก่อนเข้าเรื่องมาดูก่อนว่าน้ำแร่มีประโยชน์กับผิวตรงไหนบ้างครับ


สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้าสำคัญอย่างไร
สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า ให้ความชุ่มชื้น พร้อมกับช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองต่อผิวหน้าและผิวกายที่เกิดขึ้นในขณะที่คุณสาวๆ ต้องออกไปเผชิญกับมลภาวะในชีวิตประจำวัน เช่น ฝุ่น ควัน รวมไปถึงเหงื่อไคลที่เกิดขึ้นมาเพราะอากาศร้อน ซึ่งมลภาวะที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ทำให้ผิวเกิดความระคายเคือง เหนียวเหนอะหนะ ไม่ชุ่มชื้น จนทำให้รู้สึกเกิดความไม่สบายผิวหน้าในระหว่างวัน ครั้นจะหาที่ล้างหน้าเอามลภาวะออกไปนั้นก็เป็นเรื่องที่ยาก

ด้วยเหตุผลดังกล่าว สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า จึงกลายมาเป็นทางเลือกที่ดีและสะดวกในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้อย่างง่ายๆ



สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้ามีประโยชน์อย่างไร
ส่วนประกอบของสเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้าหลักๆ เป็นน้ำแร่จากน้ำพุร้อนธรรมชาติ ซึ่งอุดมไปด้วยสารที่สามารถช่วยในการระงับการเติบโตของเชื้อโรค เช่น สารแอนตี้ออกซิแดนท์ และยังมีแร่ธาตุอย่างโพแทสเซียม คอปเปอร์ ซิงค์ ฟูลออไรด์ ซิลเวอร์ เซเลเนียม และแมกนีเซียม ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเป็นฟิล์มบางๆ เคลือบผิวเอาไว้ ช่วยให้ผิวบรรเทาความระคายเคืองลง

นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งสูตรส่วนผสมเหล่านี้จะมีความแตกต่างกันออกไปตามยี่ห้อของสเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า แต่ก็ล้วนมีประโยชน์ และช่วยในการบำรุงผิวพรรณบนใบหน้าทั้งสิ้น ซึ่งโดยหลักๆ แล้ว สเปรย์ฉีดน้ำแร่จะมีประโยชน์ดังต่อไปนี้


  1. สารสกัดจากธรรมชาติช่วยคืนความชุ่มชื้นและหลีกเลี่ยงความระคายเคืองต่อผิวหน้า เช่น สารจากแตงกวา ว่านหางจระเข้ เป็นต้น ซึ่งเกิดขึ้นจากการเผชิญกับมลภาวะในระหว่างวัน เหมาะกับคุณสาวๆที่มีใบหน้าหมองคล้ำและเป็นขุยบนใบหน้า นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการปวดแสบ ปวดร้อนที่เกิดขึ้นจากแสงแดดได้อีกด้วย
  2. ช่วยลดริ้วรอยและชะลอความแก่ของผิวหนัง น้ำแร่ หรือน้ำมันหอมระเหยในสเปรย์น้ำแร่บางยี่ห้อ มีคุณสมบัติในการช่วยลดริ้วและชะลอความแก่ของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูอ่อนเยาว์ปราศจากริ้วรอย แลดูสุขภาพดีอยู่เสมอ
  3. ใช้ฉีดเพื่อเป็นการช่วยเตรียมผิวหน้าก่อนการแต่งหน้า ทำให้คุณสาวๆสามารถที่จะแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น เครื่องสำอางติดทนนาน ไม่หลุดลอกออกง่าย และยังสามารถใช้ในการฉีดเพื่อเตรียมผิวหน้าเพื่อที่จะทาเซรั่มบำรุงผิวได้อีกด้วย
  4. ช่วยในการผ่อนคลายผิว โดยปกติแล้วหลังจากการล้างหน้า ผิวหน้าจะรู้สึกแน่นตึง สเปรย์น้ำแร่จะช่วยทำให้เกิดความชุ่มชื้นของผิว
  5. สะดวกในการพกพา ในระหว่างวันหากคุณสาวๆต้องการที่จะเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้า ก็สามารถทำได้อย่างง่ายๆ โดยเพียงแค่หยิบสเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้าขึ้นมาฉีดลงบนใบหน้าเท่านั้น
  6. ช่วยในการกระชับรูขุมขน เมื่ออากาศร้อนและรูขุมขนเปิดกว้างมากขึ้นจะทำให้สิ่งสกปรก และเชื้อแบคทีเรียเข้าไปอุดตันที่รูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว และริ้วรอยก่อนวัย
  7. ช่วยในการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก เมื่อใช้สเปรย์น้ำแร่พ่นที่ใบหน้าหลังจากการล้างหน้าจะเป็นการช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว ถ้าหากใช้หลังการล้างหน้าจะช่วยในการปรับสภาพผิว และช่วยปิดรูขุมขน พร้อมกับล้างเครื่องสำอาง รวมไปถึงคราบสกปรกออกไปจากรูขุมขนได้อย่างหมดจดมากยิ่งขึ้น

สิ่งที่จะมารีวิวก็คือ บันตัน น้ำแร่ไม้ไผ่ 
บังเิอิญได้ไปพบเข้าที่ร้านสุขภาพแถวนวมินทร์ เลยสอยมาใช้ 1 ขวด ราคาน่าจะไม่เกิน 150 บาท จำไม่ได้น่าจะไม่เดินนี้ครับ ที่หยิบมาได้เพราะคนขายเขาเห็นนุชาเป็นลูกค้าประจำ และยืนอ่านมุมน้ำแร่นาน เลยแนะนำตัวนี้ว่าเป็นตัวที่ใช้ดีที่สุดว่างี้... นุชาก็เลยสอยมาเลย อิอิ


ชื่อยี่ห้อ บันตัน น้ำแร่ถ่านไม้ไผ่


คุณสมบัติ / น้ำแร่ถ่านไม้ไผ่ อุดมด้วยแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม แมกนิเซียม 
โปตัสเซียม มีคุณค่าบำรุงผิว  และสร้างสมดุลย์ผิวของเซลล์ได้แข็งแรงกระชับ มีสุขภาพผิวที่ดี

ส่วนประกอบ / Bamboo Charcoal ,  Mineral Water



หัวสเปรย์น้ำแร่ หัวใหญ่ดีและฉีดออกมาเป็นละอองดีมาก จุดนี้ชอบครับ


ขวดสีน้ำเงินออกทึบแสง แต่ก็ให้เห็นถึงระดับปริมาณน้ำแร่ครับ


อันนี้ฉีดให้ดูว่าเป๋็นน้ำ 555 ไม่มีกลิ่น ไม่มีรสชาติ (แอบชิมดูแล้ว)


สรุปผลการใ้ช้

นุชาใช้จนถึงวันที่รีวิวก็ประมาณ 15 วันพอดีครับ ส่วนตัวตอนแรกๆ รู้สึกเฉยๆ มาก เพราะฉีดๆ ไปอย่างนั้น แต่เริ่มมากสังเกตุผลหลังฉีดประมาณ 4 - 5 วัน ว่าผิวไม่ลอกไม่แห้ง ไม่คันเลย เมื่อปรียบเทียบน้ำแร่ ยี่ห้อ ราXXX นุชารู้สึกว่าผลที่ได้เหมือนกันในดานความชุ่มชื่น แต่น้ำแร่บันตันคุ้มค่ากว่าในด้านปริมาณและราคา อาจจะเพราะผลิตในประเทศเลยทำให้ราคาไม่สูงมาก ที่สำคัญมากๆ ที่นุชารู้สึกปลื้มเป็นพิเศษคือเขาผสมถ่านไม้ไผ่ในกระบวนการทำน้ำแร่ก่อนบรรจุ จึงทำให้น้ำแร่ขวดนี้ทำหน้าที่ขจัดสรเคมีที่ตกค้างบนผิวได้อย่างดีอีกด้วย  บอกเลยว่าใช้แล้วชุ่มชื่นโดยไม่ต้องทาครีมบำรุง เพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบทาอะไรบำรุง ตอนกลางคืนจะฉีดแล้วรอให้แห้งแล้วค่อยทายารักษาสิวแล้วนอนเลย 
  • หน้าชุ่มชื่น ไม่ลอก ไม่แห้ง 10/10
  • ไม่ทำให้เกิดสิว 10/10
  • ไม่มีส่วนทำให้หน้าหายมันครับ 
คะแนน 10/10 เอาไปเลยนะ ชอบไว้มีโอกาสจะไปบุกโรงงานนะ เอาแกลอนไปใส่ซะเลย 5555+






น้ำแร่บันตันเหมาะสำหรับใคร
  • ผิวแพ้ง่าย เป็นสิว หน้าติดสาร ต้องการให้หน้าชุ่มฉ่ำ ตลอดวัน
  • วัยรุ่น
  • ผู้มีอายุ 30 UP ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง

- บ้ายย บายยย แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าครับ -


ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก
http://www.kondoodee.com