Monday, June 30, 2014

แนวทางการรักษาสิวจากภายในฉบับนุชา : Acne Nature Holistic

           สวัสดีครัหลายๆ คนที่ติดตามอ่านบล๋็อกและบทความของนุชา อาจจะสับสน หรือ ไม่เข้าเกี่ยวกับแนวการรักษาสิว แบบฉบับนุชา หรือ จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าจะเริ่มยังไงดี

          ซึ่งนุชา ขออธิบายให้เข้าใจกันก่อนนะครับ ว่านุชาหายจากสิว ไม่ได้หายขาด 100% แต่จากอาการสาหัส จนทำให้ใบหน้าดีขึ้นได้เหมือนมนุษย์ปกติครับ สิวมันก็จะมีขึ้นบ้างช่วงที่เรานอนดึก พักผ่อนน้อย เครียดครับ

           ทำให้นุชาหลุดพ้น วงจรการรักษาสิวแบบเดิมๆ ที่เคยเชื่อและปฏิบัติมานานนับ 2 ปีแล้วครับ  อีกทั้งนี้ยังเป็นวิธีที่ทำให้นุชาเสียเงินน้อยลงมากครับ

           แนวการรักษาสิวในแบบของนุชาขอ เรียกว่า Acne Nature Holistic หรือธรรมชาติแบบผสมผสาน แล้วกันครับ เพราะวิธีการรักษาสิวของนุชา ต้องมีปัจจัยภายนอกจะเป็นยาที่ต้องใช้ทา และ การรักษาจากภายใน ซึ่งนุชาให้ เปอร์เซ็นของความสำคัญของการรักษาสิว จากภายใน 50% และ  การรักษาสิวจากภายนอก 50% นะครับ ทั้งสองทำให้เกิดผลสำเร็จครับ

            สิ่งที่นุชาอยากจะ กับบอกทุกคนที่ กำลังจะรักษาสิวด้วยตนเอง หรือ ปฏิบัติตามคำแนะนำของนุชา เพื่อการรักษาสิวให้ดีขึ้นจนหาย  การรักษาสิวแนวนี้จะไม่แนะนำให้ ทานยารักษาสิวประเภท โรแอคคิวเทน เอคโนติน หรือ พวกกรดวิตามมินเอทั้งหลาย ยาแก้อักเสบ ครับ ซึ่งยาพวกนี้ จากประสบการณ์ของคนใกล้ตัว มี 100 คน หายจากสิวจากการทานยานี้เพียง 1-2 คนเท่านั้น นอกนั้น สิวกลับมาเป็นใหม่จึงค่อนข้างแอนตี้ครับ


ดังนั้นหากใครสนใจและอยากรักษาสิวตามแนวทางนี้ สิ่งที่นุชาอยากจะบอกมีดังนี้

           1. ระยะเวลาของการหายของสิว เร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับตัวผู้รักษาเองครับ บางคนเป็นน้อยหายไว ใช้เวลาไม่ถึง 3 เดือนผิวก็กลับมาเป็นปกติ บางคนเป็นมากขึ้นแทบทุกรูขุมขนการรักษาก็เป็นไปตามลำดับครับ บางคนต้องใช้ระยะเวลา 1 ปี เลยก็มีครับ

           2. มองสิวอย่างเข้าใจ ว่าเป็นสิวต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา บางคนเป็นมานานสองสามปี ใจร้อนอยากหายภายใน 7 วัน เป็นไปไม่ได้แน่นอนครับ ถ้าจะดีขึ้นได้ก็ต้องพึ่งสารอันตรายแล้ว การรักษาสิวมีเหตุมีผลของมัน และอาศัยระยะเวลา และความใจเย็นเป็นสำคัญครับ "กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว" การรักษาสิวก็เช่นเดียวกันครับ

           3. การรักษาสิวตามแนวทางของนุชา ต้องรักษาสุขภาพจากภายในให้ดีด้วย ดีในที่นี่หมายถึงให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ดูแลสุขภาพของตนเองอย่างถูกวิธี ดื่มน้ำ พักผ่อน ออกกำลังกาย มีอารมณ์ จิตใจที่แจ่มใสอยู่เสมอ  เรื่องที่นุชาให้ความสำคัญและค่อนข้างใสใจมากที่สุดก็คือการมีระบบขับถ่ายที่ดีต้องขับถ่ายให้ได้ทุกวันครับ

           4. ยอมรับผลการรักษาสิวด้วยตัวคุณเอง พยายามเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของการรักษาสิว และสุขภาพของตัวเองใหม่ สังเกตุถึงความเปลี่ยนแปลงของผิวด้วยตนเอง คุณเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุดว่าสิวที่คุณเป็น เกิดมาจากอะไร เพราะหมอที่ดีที่สุดคือตัวของคุณเอง นุชาเป็นเพียงคนให้คำแนะนำเท่านั้นเองครับ


นุชาได้ทดลองปฏิบัติด้วยตนเองนะครับ แล้วพบว่า ไม่ว่านุชาจะเป็นสิวอะไรก็ตามหากรักษาสิว จากการปรับพื้นฐานภายในร่างกายให้ดี มีสุขภาพที่ดี และ ดูแลผิวจากภายนอกให้ถูกต้องตามอาการ สิวของนุชาที่เป็น แต่บทความนี้จะเขียนเกี่ยวกับการรักษาสิวจากภายในก่อนนะครับ เพราะมีผลต่อการรักษาสิวที่หลายๆ คนเป็นกันมากๆ ไว้บทความหน้าจะเป็นการรักษาสิวจากภายนอกและ การคัดเลือกการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อการรักษาสิวนะครับ

มาเริ่มกันดีกว่านะครับว่านุชามีวิธีการรักษาสิิวด้วยตนเองอย่างไรครับ


นุชาวิธีการรักษาสิว มีขั้นตอนดังนี้นะครับ

1.การรักษาสิวจากภายใน ประกอบด้วยรายละเอียดที่จะพูดถึงมี ดังนี้นะครับ
           1.1 การทานอาหาร
           1.2 การขับถ่าย
           1.3 การออกกำลังกาย
           1.4 การดื่มน้ำ
           1.5 การนอน
           1.6 อารมณ์
           1.7 แนะนำก่อนการปฏิบัติจริง


1.1 การทานอาหาร

          การทานอาหาร เป็นสิ่งแรกที่นุชาให้ความสำคัญมากๆ สำหรับการรักษาสิวจากภายในให้หายได้ครับ เพราะว่าอาหารล้วนเป็นปัจจัยสำคัญ ที่อาจะเป็นตัวแปรที่ทำให้ ฮอร์โมนในร่างกายของเรา รวมถึงระบบเมตาบอลิซึ่มของเราแปรปรวนได้ครับ นุชาให้ความเชื่อมั่นและพิสูจน์ได้ด้วยตนเองครับว่า เมื่อเรากินอาหารอย่างไร สุขภาพกาย และสุขภาพผิวของเราก็จะออกมาเป็นในแบบนั้นๆ ครับ
 " You are what you eat"



     สำหรับอาหารที่นุชาแนะนำให้ คนที่เป็นสิวเลือกทาน ก็คือ อาหารที่จะทำให้ร่างกายของเราเกิดความสมดุล มีสุขภาพดี ทานให้ครบ 5 หมู่ ไม่ทำร้ายสุขภาพ อาจจะเน้นหนักไปทานผัก ไฟเบอร์ และ ผลไม้แทนขนมหวานทั่วๆ ไปครับ

     หลักการเลือกอาหารสำหรับนุชาก็คือ :
     1.ทานอาหารโดยคำนึงถึงสารอาหารว่าครบ 5 หมู่หรือไม่ ห้ามงด ห้ามอด ครับ
     2.หลีกเลี่ยงขนมหวาน มีน้ำตาลปริมาณสูง
     3.หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ แต่สามารถทานอาหารที่ใช้ทอดได้กรณีใช้น้ำมัน มะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน มาใช้แทนในการใช้น้ำมันปล์ามในการประกอบอาหารครับ
     4. เน้นการทานอาหารทีี่สดใหม่ ไม่ค่อยผ่านการแปรรูปหรือทานอาหารที่ทำเอง เช่น ผักสด เมนูสลัด น้ำผักปั่น ต้มจืด ยำต่างๆ หลีกเลี่ยงอาหารการแปรรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไส้กรอก อาหารกล่อง
     5. หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มี ผงชูรส
     6. หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่หมักดอง เช่น ผักดอง ผลไม้ดอง ปูดอง
     7. หลีกเลี่ยงการทานน้ำดื่มชาขวด น้ำอัดลม
     8. ทานอาหารให้ตรงเวลา ครบทุกมื้อ ห้ามอดครับ
     9. ทานผักผลไม้เยอะ เพิ่มการทานผักผลไม้ที่มีกากใยมากๆ จะเป็นผลดีต่อการขับถ่ายครับ
   10. ทานอาหารให้ตรงเวลา

     วิธีการหนึ่งที่นุชาได้ทำการศึกษาและทดลองปฏิบัติในการทานอาหารที่เน้นการทานฤทธิ์ เย็น โดย แพทย์แผนไทย ได้ให้นิยามถึงสาเหตุของ การเกิดสิว ฝ้า หรือ ตุ่มคัน ปัญหาทางผิวหนังเกิดจากที่ ร่างกายมีภาวะร้อน มากเกินไปครับ ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิด ภาวะร้อนในก็คือ การทานอาหาร ที่มีรสเผ็ดจัดจ้าน มีรสหวาน ผ่านการแปรรูปหลายขั้นตอน ผ่านการผรุงรสที่เข้มข้น และยังรวมไปถึง การพักผ่อนไม่เพียงพออีกด้วยครับ
      ซึ่งวิธีการของนุชาเอง เมื่อทราบแล้วว่าสิวอาจจะเกิดการ ภาวะร้อนในก็เป็นได้ จึงพยายามงด ของที่เขาห้าม หรือเป็นสาเหตุปัจจัยที่อาจจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะร้อนในได้ครับ ช่วงแรกๆ ก็ได้ผลดีนะครับ สิวยุบหมด แต่ผ่านไปนานๆ มันเกิดอาหารไม่สมดุลครับ คือเราเน้นหนักไม่ทานอาหารฤทธิ์ร้อนเลยไงครับ ร่างกายก็เกิดเอฟเฟค เกิดอาการไอ ผิวซีด ไม่สดใสครับ นุชาเลยกลับมาทานอาหารปกติ แต่ควบคุมให้สมดุลดีกว่าครับ และอีกอย่างที่อยากจะบอกว่าสิวไม่ได้เกิดจากภาวะร้อนเกินเสมอไปครับ อาจจะเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนที่ทำงานมากเกินกว่าปกติ สาเหตุของสุขภาพ หรือ การใช้ผลิตภัณฑ์จากภายนอกก็ได้เช่นกันนะครับ

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น ภาวะร้อนเกิน หรือ เย็นเกิน ดูได้ที่นี่นะครับ

คนที่มีภาวะร้อนเกินจะมีอาการดังต่อไปนี้

- ผิวหนังเป็นผื่น เป็นตุ่มแดง มีสิว หรือมีตุ่มคันใสๆขึ้นตามร่างกาย
- ชอบร้อนใน เป็นแผลในปาก เหงือกอักเสบ
- มีอาการท้องผูก ถ่ายเป็นก้อนแข็งเป็นประจำ
- ชอบร้อนตามส่วนต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะตามข้อต่อ
- ปัสสาวะน้อย แต่บ่อย ปัสสาวะมีสีเข้ม แสบขัดเวลาปัสสาวะ
- ผิวหนังปกติจะเหมือนผิวไหม้ น้ำเหลืองไม่ดี เป็นฝีหนอง
- ชอบร้อนท้อง ท้องอืด และแสบท้องเป็นประจำ
- เลือดกำเดาออกเป็นประจำ
- ชอบนอนกรน ปากแห้ง แตก เป็นขรุย คอแห้งกระหายน้ำตลอดเวลา
- กล้ามเนื้อเกร็งค้าง ชอบเป็นตะคริวบ่อยๆ
- ตาแดง แห้ง แสบ มัว ขอบตาคล้ำ
- เป็นโรคเริม งูสวัด สะเก็ดเงิน
- มีกระสีน้ำตาล หรือสีดำตามร่างกาย
- ผมมีรังแค ผมร่วงหรือหงอกก่อนวัยอันควร
- ถ้าเป็นผู้หญิงรอบเดือนมักมาไม่ปกติ มาเร็วก่อนกำหนด
- อารมณ์ร้อน อารมณ์เสีย หงุดหงิดง่าย

คนที่มีภาวะเย็นเกินไปจะมีอาการดังต่อไปนี้

- มือเท้าเย็น ซีด บวม
- ทำอะไรเชื่องช้า เฉื่อยชา คิดช้า ไม่ค่อยมีแรง
- สีปัสสาวะใส และมีปริมาณปัสสาวะมากต่อการปัสสาวะหนึ่งครั้ง
- หน้าซีด ปากซีด
- ตาจะแฉะ เวลาตื่นนอนมาขี้ตาจะเยอะมาก
- อุจจาระมักเหลว และมีสีอ่อน ชอบท้องเสียหรือถ่ายท้องบ่อยๆ
- ผิวตกกระสีขาว
- หน้าบวมตึง แต่ไม่รู้สึกร้อนหน้า
- ชอบเจ็บอกด้านขวา
- ขี้หนาว ไม่ชอบพัดลมหรือแอร์เย็นๆ
- มีภาวะโลหิตจาง
- ถ้าเป็นผู้หญิง จะมีอาการตกขาวมาก ประจำเดือนมาช้ากว่าปกติ และมีประจำเดือนเป็นก้อน

Cr. http://www.morkeaw.net หมอเขียว

ง๊ายง่าย แค่นี้เองครับ ทำได้อยู่แล้วครับ ^^

นุชาขอแนะนำบทความที่นุชาเคยเขียนไว้นะครับ จะเป็นประโยชน์มากๆ หากศึกษาและลองนำไปปฏิบัติดูนะครับ

      - อาหารมื้อเช้ากับการรักษาสิว
         : http://happyacne2you.blogspot.com/2014/05/blog-post.html
   
      - อาหารโซเดียมสูงทำให้เกิดสิว
         : http://happyacne2you.blogspot.com/2014/03/blog-post.html
   
      - ประสบการณ์ ตรวจภูมิแพ้อาหารแอบแฝง สาเหตุของการเกิดสิว
         : http://happyacne2you.blogspot.com/2014/06/blog-post_10.html

      - อาหารเกี่ยวกับสิวไหม? [แนวคิดการป้องกันสิวเกี่ยวกับคุณภาพของเลือด]
         : http://happyacne2you.blogspot.com/2014/03/blog-post_18.html




1.2 การขับถ่าย

        การขับถ่าย นุชาเคยเขียนไปแล้วในบทความก่อนหน้านี้ว่ามีความสำคัญ และอาจจะเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวของใครหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ครับ เพราะหากเราขับถ่ายไม่เป็นเวลา สะสมไว้หลายๆ วันแล้วค่อยมาถ่ายที จะทำให้เลือดของเราไม่สะอาด เกิดการสะสมและการหมุนเวียนของสารพิษในร่างกาย (TOXIN)

เล่าประสบการณ์ของนุชา ซะหน่อย....
        นุชาเป็นคนหนึ่งที่ระบบขับถ่ายไม่ดีตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำจะนั่งนานมากกว่าจะออก และตอนเด็กๆ จะมีนิสัยไม่ชอบทานผักจะทานเนื้อสัตว์เยอะมากและที่เชียงรายที่บ้านจะทานข้าวเหนียวด้วย จึงทำให้ระบบขับถ่ายของนุชาตั้งแต่ยังเด็กแย่มาก ณ ตอนนั้นเป็นเด็กก็จะถ่าย 2-3 วัน ถึงจะถ่าย 1 ครั้ง พอมารู้ข้อมูลตอนนี้ถือว่าอันตรายมากเลยไม่น่าผิวพรรณเมื่อตอนเด็กทำไมไม่สดใส ดำคล้ำ โทรมมาก....

       ก้าวผ่านเวลาจนอายุ 18-19 ปี นุชาเริ่มเป็นสิวที่หน้าแบบเริ่มมา จนเยอะมาก ประกอบกับรักษาตัวเองด้วยธรรมชาติด้วยมั้งครับและเริ่มปรับระบบขับถ่ายของตัวเองตั้งแต่นั้นเรื่อยมา ช่วงแรกนุชาจะเริ่มทำตามสูตร การทานน้ำอุ่นผสมมะนาว และ ทดลองทานน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ จนกระทั้งท้ายที่สุดมาทานสมุนไพรเพื่อปรับลำไส้ครับ ซึ่งตอนนี้ก็ทำมาเรื่อยๆ ผ่านมา 1 - 2 ปี ผิวพรรณลำตัวต่างจากแต่ก่อนมาก ผิวพรรณสดใสแม้กระทั่งเป็นสิวอยู่ก็รู้ว่าผิวขาวสว่างในระดับนึงครับ แต่ถ้าวันไหนที่ไม่ขับถ่ายเลย สิวอักเสบก็จะขึ้นเลยครับ จึงทำให้ต้องปรับระบบขับถ่ายของตัวเองทุกวัน ต้องออกทุกวันครับ

ลองมาดูกันว่าสุขภาพของตัวเองดีหรือไม่ ดูภาพได้เลยน่ารักมาก (จะถ่ายของตัวเองมาให้ดูก็กะไร อิอิ)


สาเหตุที่ทำให้อึไม่ออก 

จากที่นุชาได้ประสบปัญหากับตัวเองนั้น ขอยกตัวอย่างดังนี้
  • นอนดึกเกินไป สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ลำไส้ของเราทำงานไม่เต็มที่ไม่สามารถลำเลียงย่อยสลายของเสียที่ตกค้างในลำไส้เล็ได้ทัน เมื่อเรานอนดึกทุกวันจะสังเกตได้ว่าขับถ่ายไม่ออก หรือ กว่าจะออกก็เที่ยงกว่าๆ ไปแล้ว
  • เครียด บางทีการที่เราเครียดก็ทำให้อึไม่ออกได้เช่นเีดียวกัน 
  • ดื่มน้ำน้อย ทำให้ลำไส้ไม่สามารถขับเคลื่อนของเสียออกมาได้อย่างเต็มที่
  • ทานอาหารน้อย ไม่ตรงเวลา อย่าหวังที่จะให้อึเป็นเวลาเลยนะครับ
  • ไม่อยากอึ เหตุผลของหลายๆ คนรวมทั้งนุชาเป็นบ่อยมาก เช่น เวลาไปเข้าค่าย นุชาปวดอึจะเก็บและอั้นเอาไว้ได้ถึง 2 -3 วัน เลยทีเดียว
         ทราบหรือไม่ ว่าช่วงเวลา 7.00- 9.00 เวลาการทำงานของลำไส้ใหญ่ที่จะต้องขับถ่ายของเสียออกมาจากร่างกาย หากเกินเวลานี้ ลำไส้ใหญ่จะบีบตัวกลับไปยังลำไส้เล็กอีกครั้งและเข้าไปสู้กระเพราะเพื่อย่อยสลายอีกครั้ง คิดตามภาพว่าของเน่าเสียที่สะสมหลายวันจะเหม็นขนาดไหน ร่างกายก็จะดูดซึม ก๊าซพิษ สารพิษเข้าไปในกระแสเลือดและสมอง ทดแทนออกซิเจน

         เมื่อเลือดของเราไม่สะอาดแน่นอนละว่า เลือดนั้นจะไปหล่อเลี้ยงลำเลียงสารพิษเข้าสู่อวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ไต ปอด ผิวหนัง จึงไม่แปลกใจที่ว่าคนเป็นสิวเรื้อรัง ผิวพรรณไม่สดใส สิวไม่หายขาดส่วนมากจะระบบขับถ่ายไม่ดีครับ

วิธีแก้ไขและทำให้ระบบขับถ่ายกลับมาเป็นปกติ
  1. ปรับการนอนให้ได้  แนะนำให้นอนก่อน 5 ทุ่ม เพราะจะทำให้สามารถตื่นมาได้ในเวลา 6.00-7.00 โดยไม่เพลียและสามารถขับถ่ายได้ครับ
  2. .แนะนำการดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น 1 แก้ว ตามด้วยน้ำเปล่า 1 แก้ว หลังตื่นนอน จะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ถ่ายออกง่ายขึ้น
  3. ทานอาหารที่มีกากใย และผลไม้ทุกมื้ออาหารจะช่วยทำให้ลำไส้สามารถขับเคลื่อนของเสียออกมาได้ดียิ่งขึ้น
  4. ถ่ายยากมากทำทุกทางไม่ดีขึ้น แนะนำการทานโยเกริตเพื่อเพิ่มจำนวนของจุลินทรีย์ที่ดีให้กำลำไส้ และการทานสมุนไพรเพื่อกระตุ้นการทำงานของลำไส้ เช่น มะขามแขก มะขาม ขมิ้นชัน เป็นต้น


1.3 การออกกำลังกาย

    การออกกำลังกาย หลายๆ คนที่เข้ามาอ่าน คงจะทราบดีอยู่แล้วว่า จะทำให้ร่างกายของเราสุขภาพดี แต่สำหรับคนที่เป็นสิวยิ่งดีใหญ่เลย แต่รูปแบบของการออกกำลังกาย ของแต่ละคนอาจจะเหมาะกับสภาพผิวที่เป็นอยู่ด้วย เช่น หากมีสิวมากๆ สิวระเบิดบูดเต็มหน้า หากออกกกำลังกายที่ทำให้เกิด การขับเหงื่อยออกมาในปริมาณมากๆ อาจไม่ดีแน่ เพราะอาจจะทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ และเกิดการระคายเคืองจากเหงื่อยได้  หรือในบางคนอาจมีอาการแพ้เหงื่อยอยู่ก่อนแล้วก็คงจะไม่เหมาะ 


     นุชาจึงแนะนำการออกำลังกายสำหรับคนเป็นสิว ไว้ดังนี้นะครับ
     1. มีสิวมากๆ เยอะเต็มหน้า แพ้เหงื่อย การออกกำลังกาย ในรูปแบบ โยคะ รำ แกว่งแขน หรือ กีฬาที่ไม่ต้องใช้กำลังมากๆ ที่อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียเหงื่อยมากครับ ออกกำลังกายแบบพอดี พอให้ระบบไหลเวียนของเลือดไหวเวียนอย่างดี ก็เพียงพอแล้วครับ
     2. สิวใกล้จะหาย หรือ เหลือแต่รอยสิว สามารถออกกำลังกายได้ตามรูปแบบที่ตัวเองต้องการได้เลยครับ


      ในแบบของนุชาแล้ว นุชาชอบออกกำลังกายเบาๆ ครับ เพราะส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบออกกำลังการเลยก็ ว่าได้เลยครับ เมื่อก่อนมากสุดก็ การเกว่งแขนครับ และตอนนี้ที่เพิ่งทำและได้ผลดีมากๆ ทำให้ร่างกายสดชื่น กระชับขึ้นก็ ลองทำตามโปรแกรมการออกกำลังกาย T25 ของ  Shaun T (ชอน ที) เทรนเนอร์ดัง ผู้เป็นเจ้าของโปรแกรมออกกำลังกายแบบอินแซนนิตี (Insanity) หรือการออกกำลังกายแบบเต้นไปเต้นมา ใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายเยอะๆ 

      สิ่งที่ต้องเตรียมคือ พื้นที่ในการออกเล็กน้อย เเละรองเท้าผ้าใบเเบบถูกกิจลักษณะ ซึ่งออกกำลังกายเพียง 25 นาที ให้ประสิทธิผลไม่ต่างจากการออกกำลังกาย 1 ชั่วโมงเต็ม คือดีมากอะ เสียเหงื่อยมาก เล่นแรกๆ นี่ร่างแทบแหลก เหนื่อยมากครับ อาจจะเหมาะกับคนที่ลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพ อยากหุ่นดีแบบมีสุขภาพ และเหมาะกับผู้ที่มีสิวใกล้หายนะครับ เพราะเสียเหงื่อยเป็นลิตรๆ แน่นอน !



1.4 การดื่มน้ำ

      การดื่มน้ำเป็นสิ่งที่นุชา ให้ความสำคัญมาก ไม่แพ้อย่างอื่นที่กล่าวมาเลยครับ เพราะช่วยทำให้ร่างกาย และเลือดหล่อเลี้ยงเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของเรานั้นทำงานได้ดีอย่างมีประสิทธิ์ภาพ อีกทั้งการดื่มน้ำยังมีผลต่อระบบการกำจัดของเสียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของเหงื่อย การปัสสวะ การอุจจระ เห็นไหมละครับว่า การดื่มน้ำนั่้นสำคัญมากๆ เลย หากร่างกายขาดน้ำก็จะทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานอย่างด้อยประสิทธิภาพนั่นเองครับ แต่ทั้งนี้น้ำที่ดื่มไม่ใช่น้ำหวาน น้ำอัดลมครับ อันนั้นไม่รวมว่าเป็นการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพของเราในแต่ละวันครับ

     การดื่มน้ำให้ถูกวิธี นุชาทำตามวิธีการของหมอแดง http://thearokaya.co.th

การคำนวณการดื่มน้ำให้เพียงพอกับน้ำหนักตัว

(น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม x 2.2) ÷ 2)  x 30  =  ……..….… cc.

โดย        1,000  cc.             =  1 ลิตร
น้ำ          1  ลิตร                  =  5 แก้ว

ตัวอย่าง  ถ้าท่านหนัก 50 กิโลกรัม
((50 x 2.2) ÷ 2)  x 30 = 1,650 cc. = 1.65 ลิตร

โดยเฉลี่ยแล้วน้ำ 1 แก้ว = 200 cc. โดยประมาณ 1.65 ลิตร = น้ำ 8 แก้ว โดยประมาณ

ดังนั้นผู้ที่มีน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม ควรทานน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว


        การดื่มน้ำให้ถูกวิธีนอกจากการ ดื่มน้ำตามการคำนวณปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวันแล้ว นุชาแนะนำ 

วิธีหรือข้อแนะนำดังนี้นะครับ 

    1. การดื่มน้ำ ไม่ควรดื่ม 1 แก้วให้หมดทีเดียว แต่ควรทานแบบค่อยๆ จิบ ไปตลอดวัน หรืออยากมากก็ให้ทานแค่ ครึ่งแก้วก็เพียงพอครับ และดื่มบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายนำ น้ำ ไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

    2. ไม่ควรดื่มน้ำก่อนทานอาหาร หรือ ทานน้ำระหว่างการรับประทานอาหาร เพราะจะไปดับไฟย่อย หรือ น้ำย่อย จะทำเกิดอาหารท้องอืด หรือระบบย่อยอาหารทำงานไม่ดีได้ครับ
  
    3. ดื่มน้ำหลังตื่นนอนทันทีเป็นการดื่มน่้ำที่ดี นุชาจะดื่มทุกวันหลังตื่นนนอนตอนเช้า 2 แก้ว ทีนที สังเกตว่า การดื่มน้ำตอนเช้าจะช่วยทำให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดีขึ้นด้วยครับ (ถ่ายง่าย) อีกทั้งเป็น หากใครสะดวกอาจจะ บีบมะนาวใส่ซัก 1ลูกการล้างสารพิษในลำไส้ ในตอนเช้าด้วยนะครับ




1.5 การนอน

           1. นอนช่วง 3 - 4 ทุ่ม หลายคนคงอาจจะเคยได้ยิน นักธรรมชาติบำบัด หรือ กูรูด้านสุขภาพ มามบ้างแล้วว่าการนอนช่วงเวลานี้ทำให้เราสุขภาพดี ส่วนมากจะแนะนำนอนช่วง 4 ทุ่ม และไม่ เกิน 5 ทุ่ม เหตุผลที่ว่าต้องนอนก่อน 5 ทุ่ม

           ก็คือ 5 ทุ่ม - ตี 1 ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตับกำลังทำงาน ในการขับสารพิษนั่นเองครับ หากเรานอนดึกกว่านี้ การทำงานของตับจะทำงานได้เป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้ตับทำงานหนักได้ และระบบการขับสารพิษในร่างกายทำงานไม่เต็มที่ ส่งผลทำให้เกิดสารพิษสะสมในร่างกาย และท้ายที่สุดอาจจะทำให้เกิดสิวได้ในที่สุดครับ

         และจากการศึกษาหนังสือ ธรรมชาติช่วยชีวิต เขียนโดย Dr.Tom Wu ดร.ด้านโภชนาการและการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติจากสหรัฐอเมริกา ตีพิมเมื่อ พ.ศ. 2555 กล่าวว่า " ช่วงเวลา สองทุ่ม ถึง ตีสี่ เป็นเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเองและแจกจ่ายสารอาหาร" ซึ่งสอดคล้องกับที่นุชาได้ศึกษาและเข้าใจมา

        จากสองทุ่มถึงตีสี่ ตับที่ซึ่งผ่านการดูดซึมและสะสมสารอาหารไว้ จะเริ่มทำการแจกจ่ายสารอาหารไปยังอวัยวะต่างๆ พร้อมกับส่งมอบพลังงานให้แก่อวัยวะต่างๆ ทดแทนส่วนที่ใช้ไปแล้วในหนึ่งวัน โดยเฉพาะช่วงเวลาสี่ทุ่มถึงตีสองเป็นเวลาที่ระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองทำงาน หรือ เป็นช่วงเวลาทอง ของการนอนหลับ ทั้งยังเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเมลาโทนนิน (ฮอร์โมนแห่งความอ่อนเยาว์) จะควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองได้ดีที่สุด

     2. ไม่ทานมื้อหนักในตอนดึก
ในช่วงเวลานี้แน่นอนครับว่า เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการพักผ่อน กระเพราะของเราจะไม่สามารถคัดหลั่งน้ำกรด และลำไส้จะไม่สามารถดูดซึมและย่อยอาหารได้หมด หากเราทานมื้อหนักในช่วงเวลานี้ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ จะมีของเสียสะสมจนถึงตอนเช้า และ เข้าสู่วันต่อไป ถึงแม้ว่าเราจะถ่ายของเสียในช่วงเวลาตอนเช้าออกมาแล้ว แต่ของเสียก็จะออกมาไม่หมดครับ (หรือเรียกว่าถ่ายไม่สุด)

     3.ควรปิดไฟในห้องขณะนอนหลับ
ระบบภูมิคุ้มกันจะทำงานเพื่อซ่อมแซมและกำจัดเชื้อโรคทั่วร่างหายระหว่างเวลา 4 ทุ่ม ถึง ตีสองทุกวัน ในขณะเดียวกันระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองก็จะชาร์จไฟเติมพลังงานในช่วงเวลานี้เช่นกัน เพื่อจะได้ทำหน้าที่ทำลายข้าศึกและซ่อมแซมบาดแผล

       ควรจะนอนหลับในขณะที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง และต้องอยู่ในความมืดที่สมบูรณ์และทำให้ห้องมืิดสนิท อย่างให้มีแสงหว่าง ยกตัวอย่างการปฏิบัติของนุชานะครับ เนื่องจากห้องของนุชา เป็นห้องชุด หมู่บ้านเอื้ออาทร นุชามาพักอาศัยกับพี่สาว ซึ่งในห้องจะมีเพียง 1 ห้องนอน ดังนั้นนุชาจึงออกมานอนข้างนอก และใช้ตู้กันเป็นห้อง เมื่อตกกลางคืน เมื่อปิดไฟ ก็ยังมีไฟหน้าเปิดหน้าตึกไฟที่สอดส่องเข้ามาในหน้าต่างทำให้ไม่มืดสนิท นุชาจึงใช้ที่ปิดตาในการปิดตา เพื่อให้มืดสนิท และทำให้หลับได้ง่ายขึ้นและทำให้เมโทลานินทำงานได้เต็มที่นั่นเองครับ



     เคยมีการทดลองในอเมริกาโดยให้ผู้เข้าทดลองนอนหลับระหว่างสี่ทุ่มถึงตีสอง แต่เปิดไฟสว่างจ้าไว้ในห้อง จากการตรวจสอบด้วยเครื่องมือทางการแพทย์พบว่าการทำงานของระบบรักษาตัวเองเกือบเท่ากับศูนย์ ส่วนระบบภูมิคุ้มกันก็ทำงานลดลงถึงจุดต่ำสุด

      ด้วยเหตุนี้ หากเราอยากขจัดความอ่อนเพลีย ทำให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองไปใช้ทำอย่างอื่นเด็ดขาด หากนอนไม่หลับไม่สนิทในช่วงสี่ทุ่มถึงตีสอง ต่อให้มีเวลานอนยาวนานเพียงไรก็ส่งผลในการซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกายเพียงเล็กน้อย เซลล์ที่ถูกทำลายจะไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายเพียงเล็กน้อย เซลล์ที่ถูกทำลายจะไม่สามารถฟื้นฟูให้หายขณะืี่ข้าศึก (เชื้อโรค) ที่รุกเข้ามาในร่างกายมีโอกาสฝังตัวอยู่


พูดถึงเมลาโทนิน กันซักหน่อยนะครับ  เมลาโทนิน เป็นฮอร์โมนที่หลังออกมาจากไพเนียลบอดี (Pineal Body) สมอง เป็นสมอง เป็นสารที่สกัดได้เป็นครั้งแรกจากไพเนียลบอดีของวัว ในปี ค.ศ 1985 ปัจจุบันพบว่าฮอร์โมนชนิดนี้ช่วยกระตุ้นการนอนหลับ ปรับจังหวะเวลาของร่างกาย (นาฬิกาชีวิต) เกี่ยวกับกลางวันและกลางคืน ส่งผลต่ออารมณ์ ช่วนต้านออกซิเดชัน กำจัดอนุมูล อิสระ รวมทั้งกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวแบบที และปล่อยไซโทคิน (Cytokines) เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีบทบาทในการต้านมะเร็ง

งานวิจัยในประเทศไทย

                งานวิจัยในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับสารเมลาโทนินที่ข้าพเจ้าได้ค้นคว้ามา  มีดังนี้


  1. รศ.ดร.ศักรินทร์  ภูมิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี  และบริษัท  แดรี่โฮม  จำกัด  ได้ทำการศึกษาและวิจัยน้ำนมพาสเจอไรซ์ที่ผลต่อการนอนหลับ  พบว่า  การเปลี่ยนวิธีการรีดนมวัวในช่วงเวลาที่ไม่มีแสงสว่างทำให้ได้สารเมลาโทนินบริสุทธ์ที่มีคุณภาพมาก ช่วยทำให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาการนอนหลับ  ชะลอชรา  และป้องกันความเหี่ยวย่นไขมันต่ำกว่านมทั่วไปถึง 1 ใน 3 เท่าของนมปกติ  ขณะนี้ได้ขอจอสิทธิบัตรกรรมวิธีการผลิตเรียบร้อยแล้วและอยู่ในระยะขอจดทะเบียนยา (อย.) อีกด้วย
  2. สารอาหารอีกอย่างหนึ่งที่มีสารเมลาโทนินคือ  “น้ำมันจมูกข้าว”  จากการศึกษาค้นคว้าวาของนักวิทยาศาสตร์และแพทย์  ในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษพบว่า  ฮอร์โมนเมลาโทนินสร้างขึ้นในร่างกายของคนเรา  โดยสร้างจากต่อมไพเนียลในสมอง  เมลาโทนิน  จะสร้างออกมาในช่วงเวลกลางคืน  เมื่อคนเราอายุมากขึ้นเมลาโทนินจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่ออายุ  50 ปี เมลาโทนินจะมีน้อย
    หรือไม่มีเลย
  3. จากการวิจัยในทางการแพทย์  พบว่า  เมลาโทนิน  มีความสำคัญต่อสุขภาพของคนเราดังนี้ ควบคุมการนอนหลับ  ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น  ไม่เครียด  ไม่วิตกกังวล  ป้องกันและรักษาโรคสมองเสื่อม  โรคพาร์กินสัน  แก้ไขอาการหลงลืม  หงุดหงิด  เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ  ช่วยให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น  จึงช่วยผู้ป่วย HIV ได้มาก  เสริมการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในคนสูงอายุ  ป้องกันและเสริมการรักษาโรคมะเร็ง  แก้ไขอาการเจ็ทแล็ก  (JIT- - LEG)  แก้ไขอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ  เพราะร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ  และไม่รู้สึกเครียด  ไม่รู้สึกวิตกกังวล  สมรรถภาพทางเพศจึงดีขึ้น
  4. ศาสตราจารย์ นายแพทย์อนันต์  ศรีเกียรติขจร  ภาควิชาสรีรวิทยา   คณะแพทยศาสตร์   จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ศึกษาสารเมลาโทนิน พบว่า สารเมลาโทนินสามารถยับยั้งการเพิ่มของการไหลเวียนเลือดที่ผิวสมอง และลดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดจุลภาค นอกจากนี้สารเมลาโตนินยังสามารถยับยั้งการแสดงออกของโปรตีนฟอส และเอนไซม์ไนตริกออกไซด์ซินเทสในกลุ่มเซลล์ไทรเจมมินาล นิวเคลียสคอดาลิส ผลการศึกษานี้บ่งว่าสารเมลาโทนินสามารถยับยั้งผลของปรากฏการณ์คอร์ติคอลสเปรดดิงดิเพรสชันในการกระตุ้นระบบความปวดไทรเจมมินาล และอาจเป็นประโยชน์ในการป้องกันหรือบรรเทาอาการปวดในภาวะปวดศีรษะไมเกรน

1.6 อารมณ์/จิตใจ
        เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นตัวแปร สำคัญที่สุดที่จะทำให้การรักษาสิวของเราเอง ประสบผลสำเร็จ หรือ ล้มเหลว เพราะบางคนสิวเยอะอยู่แล้ว อยากสิวหายไวๆ รักษา สามสี่วันไม่ดีขึ้นก็เปลี่ยนยา เปลี่ยนวิธีการรักษาสิว  นุชาตอบตรงนี้เลยนะครับ ใครสิวเยอะๆ นะ 3 -7 วัน มันไม่หายหรอก หรือ แทบจะไม่ดีขึ้นเลยด้วยซ้ำเพราะ กว่าจะสังเกตุได้ว่าสิวดีขึ้นบ้าง ก็ใช้ระยะเวลาประ 1 - 2 เดือน ครับ ต้องใจเย็นๆ มากๆ ครับ

     หากเป็นสิวเยอะๆ สิ่งสำคัญที่ต้องบอกเลยก็คือ ยอมรับความจริง ว่าเราเป็นสิว เพราะหากเมื่อเรายอมรับความจริงแล้ว เราจะรักตัวเองมากขึ้น ไม่เครียดเวลาใครมาพูดติ เตือน หรือ แนะนำ เราจะคล้อยไหวตามคนอื่นๆ อยากมาก เพราะเรายอมรับว่าเราเป็นสิวนั่นเองครับ

    บอกกับตัวเอง และให้กำลังตัวเองให้ฟันฝ่ามรสุมนี้ไปให้ได้ครับ บอกตัวเองว่าเราต้องทำได้ คนอื่นยังทำได้ นุชาทำได้ แล้วคุณทำไมจะทำไม่ได้ครับ "ทำเหตุให้ดี ผลที่ดีก็จะออกมาเองครับ"

    นุชาเคยเขียนบทความเกี่ยวกับจิตใต้สำนึก เป็นการรักษาระดับจิตใจเพื่อให้การรักษาสิวให้เกิด ผลสำเร็จ รวมทั้งการเรียน การใช้ชีวิต ลองเปิดดูได้ที่นี่นะครับ อาจช่วยเป็นแรงบันดาลใดให้กับหลายๆ คนได้ครับ


ทความ Trance For Acne : ปฏิบัติการรักษาสิวจากจิตใต้สำนึก ได้ผลจริง! By นุชา




1.7 แนะนำก่อนการปฏิบัติจริง 

    หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อยากรักษาสิวจากภายใน ตามคำแนะนำของนุชาดู หากไม่เคยทำตามแนวทางของใครๆ ก็สามารถเริ่มทำได้เลยครับ หรือหากใครทำตามแนวทางของใครอยู่ ก็ให้ทำตามแนวทางนั้นๆ ไปเลยครับ ไม่ต้องเอาหลายๆ แนวทางมาผสมกัน เพราะตัวคุณเองจะ งง หรือาจจะพิจารณาด้วยตนเองว่า คุณเหมาะสมกับอันไหน เงิน งบประมาณ ความรู้ ความน่าจะเป็น และเหตุผลที่ทำให้เกิดผลสำเร็จ อันไหนดีกว่า หรือเหมาะสมกว่าสำหรับคุณครับ  แนวทางนี้ แนวทางที่นุชา รักษาสิวจนดึขึ้นจนถึงตอนนี้ ไม่ได้รักษาด้วยวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถขับสารพิษบนใบหน้า นุชาเชื่อมั่นว่าตอนนี้ไม่มีผลิตภัณฑฺ์ใดๆ ที่ช่วยละล้างสารพิษที่ตกค้างได้ นอกจากผิวจะผลักสารเคมีออกมาเอง ซึ่งนุชาเชื่อตามที่ อย. ยืนยันว่าถูกต้องและเข้าใจดีครับ

    นุชาไม่แนะนำวิธีการรักษาสิว ด้วยการ สวนลำไส้ หรืออะไรก็ตามแต่ที่พยายามจะดันสิวออกไปหน้ามาเยอะๆ เพื่อให้รักษาภายหลัง หรือการอดอาหารล้างพิษนานๆ  งดเนื้อสัตว์ งดอาหารต่างๆ ที่ทานอยู่แบบหักดิบสุดโต่งจนร่างกายผอมโซ น้ำหนักลงฮวบฮาบ ไม่ใช่วิธีการที่นุชาทำ และไม่สนับสนุน ไม่มีใครหรือคนในใดชีวิตจริง ที่จะสามารถทำวิธีการนี้แบบถาวรได้ หากคุณทำได้ เมื่อคุณกลับมาทานอาหารแบบเดิมๆ สิวคุณก็จะกลับมาแน่นอน เพราะร่างกายของคุณจะปรับไม่ทัน แนวทางนี้จะทานอาหารแบบคนทั่วไป เพียงแค่ลดอาหารที่ไม่สมควรทานให้น้อยลง ทานได้ ทานไปเลย แต่ทานให้น้อยๆ ร่างกายจะได้ไม่แย่ และสามารถ ดำรงค์อยู่อย่างมีความสุขครับ




เป็นกำลังใจให้ครับ

30 มิถุนายน 2557


ติดตามพูดคุยในเพจของนุชาได้ที่นี่นะครับ

หรือค้นหา : เรื่องสิว เรื่องบ้านๆ By Nucha


นุชา

Sunday, June 22, 2014

เคล็ดลับการนอนเพื่อรักษาสิว

           สวัสดีครับทุกท่านนุชาอาจจะเคยเขียนเล่าเกี่ยวกับประโยชน์ของการนอน มามากมายว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ และการนอนเร็วสามารถทำให้สิวหายเร็วได้ หรือไม่ทำให้สิวขึ้นได้ด้วย อีกครั้ง จะทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น โดยรวมแล้วก็คือ ทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นนั้นเอง

          แต่นุชา.. คิดว่าหลายๆ คน คงไม่ทราบแน่นอนว่า การนอนที่ได้ผลดีนั้นต้องมีวิธี หรือ เคล็ดลับ อย่างไร ไม่ใช่แค่หัวถึงหมอน แล้วนอนแน่นอนครับ จากการทดลองปฏิบัติที่นุชา ทดลอง และปฏิบัติมานาน นุชาทำมากับตัวเอง นุชาเลยอยากนำมาแบ่งปันให้ทุกๆ คนทราบกันครับ ว่าต้องทำอย่างไรให้ถูกต้องนะครับ


สิ่งที่นุชาได้ทดลองปฏิบัติที่นุชาอยากนำมาเล่า นุชาได้ปฏิบัติดังนี้นะครับ 

        1. นอนช่วง 3 - 4 ทุ่ม หลายคนคงอาจจะเคยได้ยิน นักธรรมชาติบำบัด หรือ กูรูด้านสุขภาพ มามบ้างแล้วว่าการนอนช่วงเวลานี้ทำให้เราสุขภาพดี ส่วนมากจะแนะนำนอนช่วง 4 ทุ่ม และไม่ เกิน 5 ทุ่ม เหตุผลที่ว่าต้องนอนก่อน 5 ทุ่ม

           ก็คือ 5 ทุ่ม - ตี 1 ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตับกำลังทำงาน ในการขับสารพิษนั่นเองครับ หากเรานอนดึกกว่านี้ การทำงานของตับจะทำงานได้เป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้ตับทำงานหนักได้ และระบบการขับสารพิษในร่างกายทำงานไม่เต็มที่ ส่งผลทำให้เกิดสารพิษสะสมในร่างกาย และท้ายที่สุดอาจจะทำให้เกิดสิวได้ในที่สุดครับ

         และจากการศึกษาหนังสือ ธรรมชาติช่วยชีวิต เขียนโดย Dr.Tom Wu ดร.ด้านโภชนาการและการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติจากสหรัฐอเมริกา ตีพิมเมื่อ พ.ศ. 2555 กล่าวว่า " ช่วงเวลา สองทุ่ม ถึง ตีสี่ เป็นเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเองและแจกจ่ายสารอาหาร" ซึ่งสอดคล้องกับที่นุชาได้ศึกษาและเข้าใจมา

        จากสองทุ่มถึงตีสี่ ตับที่ซึ่งผ่านการดูดซึมและสะสมสารอาหารไว้ จะเริ่มทำการแจกจ่ายสารอาหารไปยังอวัยวะต่างๆ พร้อมกับส่งมอบพลังงานให้แก่อวัยวะต่างๆ ทดแทนส่วนที่ใช้ไปแล้วในหนึ่งวัน โดยเฉพาะช่วงเวลาสี่ทุ่มถึงตีสองเป็นเวลาที่ระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองทำงาน หรือ เป็นช่วงเวลาทอง ของการนอนหลับ ทั้งยังเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเมลาโทนนิน (ฮอร์โมนแห่งความอ่อนเยาว์) จะควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองได้ดีที่สุด

     2. ไม่ทานมื้อหนักในตอนดึก
ในช่วงเวลานี้แน่นอนครับว่า เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการพักผ่อน กระเพราะของเราจะไม่สามารถคัดหลั่งน้ำกรด และลำไส้จะไม่สามารถดูดซึมและย่อยอาหารได้หมด หากเราทานมื้อหนักในช่วงเวลานี้ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ จะมีของเสียสะสมจนถึงตอนเช้า และ เข้าสู่วันต่อไป ถึงแม้ว่าเราจะถ่ายของเสียในช่วงเวลาตอนเช้าออกมาแล้ว แต่ของเสียก็จะออกมาไม่หมดครับ (หรือเรียกว่าถ่ายไม่สุด)

     3.ควรปิดไฟในห้องขณะนอนหลับ
ระบบภูมิคุ้มกันจะทำงานเพื่อซ่อมแซมและกำจัดเชื้อโรคทั่วร่างหายระหว่างเวลา 4 ทุ่ม ถึง ตีสองทุกวัน ในขณะเดียวกันระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองก็จะชาร์จไฟเติมพลังงานในช่วงเวลานี้เช่นกัน เพื่อจะได้ทำหน้าที่ทำลายข้าศึกและซ่อมแซมบาดแผล

       ควรจะนอนหลับในขณะที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง และต้องอยู่ในความมืดที่สมบูรณ์และทำให้ห้องมืิดสนิท อย่างให้มีแสงหว่าง ยกตัวอย่างการปฏิบัติของนุชานะครับ เนื่องจากห้องของนุชา เป็นห้องชุด หมู่บ้านเอื้ออาทร นุชามาพักอาศัยกับพี่สาว ซึ่งในห้องจะมีเพียง 1 ห้องนอน ดังนั้นนุชาจึงออกมานอนข้างนอก และใช้ตู้กันเป็นห้อง เมื่อตกกลางคืน เมื่อปิดไฟ ก็ยังมีไฟหน้าเปิดหน้าตึกไฟที่สอดส่องเข้ามาในหน้าต่างทำให้ไม่มืดสนิท นุชาจึงใช้ที่ปิดตาในการปิดตา เพื่อให้มืดสนิท และทำให้หลับได้ง่ายขึ้นและทำให้เมโทลานินทำงานได้เต็มที่นั่นเองครับ



     เคยมีการทดลองในอเมริกาโดยให้ผู้เข้าทดลองนอนหลับระหว่างสี่ทุ่มถึงตีสอง แต่เปิดไฟสว่างจ้าไว้ในห้อง จากการตรวจสอบด้วยเครื่องมือทางการแพทย์พบว่าการทำงานของระบบรักษาตัวเองเกือบเท่ากับศูนย์ ส่วนระบบภูมิคุ้มกันก็ทำงานลดลงถึงจุดต่ำสุด

      ด้วยเหตุนี้ หากเราอยากขจัดความอ่อนเพลีย ทำให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองไปใช้ทำอย่างอื่นเด็ดขาด หากนอนไม่หลับไม่สนิทในช่วงสี่ทุ่มถึงตีสอง ต่อให้มีเวลานอนยาวนานเพียงไรก็ส่งผลในการซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกายเพียงเล็กน้อย เซลล์ที่ถูกทำลายจะไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายเพียงเล็กน้อย เซลล์ที่ถูกทำลายจะไม่สามารถฟื้นฟูให้หายขณะืี่ข้าศึก (เชื้อโรค) ที่รุกเข้ามาในร่างกายมีโอกาสฝังตัวอยู่


พูดถึงเมลาโทนิน กันซักหน่อยนะครับ  เมลาโทนิน เป็นฮอร์โมนที่หลังออกมาจากไพเนียลบอดี (Pineal Body) สมอง เป็นสมอง เป็นสารที่สกัดได้เป็นครั้งแรกจากไพเนียลบอดีของวัว ในปี ค.ศ 1985 ปัจจุบันพบว่าฮอร์โมนชนิดนี้ช่วยกระตุ้นการนอนหลับ ปรับจังหวะเวลาของร่างกาย (นาฬิกาชีวิต) เกี่ยวกับกลางวันและกลางคืน ส่งผลต่ออารมณ์ ช่วนต้านออกซิเดชัน กำจัดอนุมูล อิสระ รวมทั้งกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวแบบที และปล่อยไซโทคิน (Cytokines) เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีบทบาทในการต้านมะเร็ง

งานวิจัยในประเทศไทย

                งานวิจัยในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับสารเมลาโทนินที่ข้าพเจ้าได้ค้นคว้ามา  มีดังนี้


  1. รศ.ดร.ศักรินทร์  ภูมิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี  และบริษัท  แดรี่โฮม  จำกัด  ได้ทำการศึกษาและวิจัยน้ำนมพาสเจอไรซ์ที่ผลต่อการนอนหลับ  พบว่า  การเปลี่ยนวิธีการรีดนมวัวในช่วงเวลาที่ไม่มีแสงสว่างทำให้ได้สารเมลาโทนินบริสุทธ์ที่มีคุณภาพมาก ช่วยทำให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาการนอนหลับ  ชะลอชรา  และป้องกันความเหี่ยวย่นไขมันต่ำกว่านมทั่วไปถึง 1 ใน 3 เท่าของนมปกติ  ขณะนี้ได้ขอจอสิทธิบัตรกรรมวิธีการผลิตเรียบร้อยแล้วและอยู่ในระยะขอจดทะเบียนยา (อย.) อีกด้วย
  2. สารอาหารอีกอย่างหนึ่งที่มีสารเมลาโทนินคือ  “น้ำมันจมูกข้าว”  จากการศึกษาค้นคว้าวาของนักวิทยาศาสตร์และแพทย์  ในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษพบว่า  ฮอร์โมนเมลาโทนินสร้างขึ้นในร่างกายของคนเรา  โดยสร้างจากต่อมไพเนียลในสมอง  เมลาโทนิน  จะสร้างออกมาในช่วงเวลกลางคืน  เมื่อคนเราอายุมากขึ้นเมลาโทนินจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่ออายุ  50 ปี เมลาโทนินจะมีน้อย
    หรือไม่มีเลย
  3. จากการวิจัยในทางการแพทย์  พบว่า  เมลาโทนิน  มีความสำคัญต่อสุขภาพของคนเราดังนี้ ควบคุมการนอนหลับ  ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น  ไม่เครียด  ไม่วิตกกังวล  ป้องกันและรักษาโรคสมองเสื่อม  โรคพาร์กินสัน  แก้ไขอาการหลงลืม  หงุดหงิด  เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ  ช่วยให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น  จึงช่วยผู้ป่วย HIV ได้มาก  เสริมการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในคนสูงอายุ  ป้องกันและเสริมการรักษาโรคมะเร็ง  แก้ไขอาการเจ็ทแล็ก  (JIT- - LEG)  แก้ไขอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ  เพราะร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ  และไม่รู้สึกเครียด  ไม่รู้สึกวิตกกังวล  สมรรถภาพทางเพศจึงดีขึ้น
  4. ศาสตราจารย์ นายแพทย์อนันต์  ศรีเกียรติขจร  ภาควิชาสรีรวิทยา   คณะแพทยศาสตร์   จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ศึกษาสารเมลาโทนิน พบว่า สารเมลาโทนินสามารถยับยั้งการเพิ่มของการไหลเวียนเลือดที่ผิวสมอง และลดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดจุลภาค นอกจากนี้สารเมลาโตนินยังสามารถยับยั้งการแสดงออกของโปรตีนฟอส และเอนไซม์ไนตริกออกไซด์ซินเทสในกลุ่มเซลล์ไทรเจมมินาล นิวเคลียสคอดาลิส ผลการศึกษานี้บ่งว่าสารเมลาโทนินสามารถยับยั้งผลของปรากฏการณ์คอร์ติคอลสเปรดดิงดิเพรสชันในการกระตุ้นระบบความปวดไทรเจมมินาล และอาจเป็นประโยชน์ในการป้องกันหรือบรรเทาอาการปวดในภาวะปวดศีรษะไมเกรน


22 มิถุนายน 2557 
กรุงเทพฯ


แหล่งอ้างอิง

- ประสบการณ์ของนุชาเอง
- นังสือ ธรรมชาติช่วยชีวิต เขียนโดย Dr.Tom Wu ดร.ด้านโภชนาการและการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติจากสหรัฐอเมริกา ตีพิมเมื่อ พ.ศ. 2555 
- http://www.gotoknow.org/posts/304967

การนอนรักษาสิว, สิวนอนดึก, นอน, สิวนอน, นอนดึกสิว, 

Tuesday, June 10, 2014

ประสบการณ์ : ตรวจภูมิแพ้อาหารแอบแฝง สาเหตุของการเกิดสิว

สวัสดีครับ วันนี้นุชา จะมาเล่าประสบการณ์ของบอย ซึ่งเป็นเพื่อนที่นุชา ได้คุยแรกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการรักษาสิว ตามแนวธรรมชาติแบบผสมผสานในแบบสไตส์ของเราๆ เองครับ ซึ่งรู้จักกันมาน่าจะได้ปี กว่า เกือบจะสองปีครับ


บอยกับนุชา จะชอบคุยกันเรื่อง สิว ผิวพรรณ ซึ่งทั้งสองมีสิวเหมือนกัน จึงทำให้เราคุยกันรู้เรื่องและเข้าใจกันครับ จึงคุยกันค่อนข้างถูกคอ 


เข้าเรื่อง... บอยสนใจในการรักษาสิวจาภายในเป็นอย่างมาก มักจะสอบถามและปรึกษาการทานอาหาร ว่าอย่างไหน และ ทานอัตราส่วนแบบไหนดี ถึงสิวจะไม่ขึ้น นุชาก็พยายามอธิบายและสรุปองค์ความรู้เท่าที่นุชาทราบเท่าที่มีแลกเปลี่ยนไป ในวันนี้บอยเลยขอมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ว่า นอกจากอาหาร ฤทธิ์ร้อน - เย็น แล้ว อมีปัจจัยในการเกิดสิวก็คือ "ภูมิแพ้อาหารแอบแฝง" ด้วยครับ


ภูมิแพ้อาหารแอบแฝงคืออะไร

ภูมิแพ้ที่แตกต่างจากชนิดอื่นตรงที่ไม่แสดงอาการแพ้ทันที แต่จะสะสมจนกระทั่งกลไกการทำงานของร่างกายเกิดการอักเสบ และส่งผลทั้งต่อกล้ามเนื้อ กระดูก ผิวหนัง ระบบย่อยอาหาร ระบบหายใจและระบบประสาท

สาเหตุของภูมิแพ้อาหารแฝงที่หลายคนไม่รู้คือ การเป็น ลำไส้รั่ว อันหมายถึงภาวะที่ลำไส้ถูกทำลายจากอาหารที่ไม่มีประโยชน์ มีสารปนเปื้อนหรือจากปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเครียด แบคทีเรีย พยาธิ การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด ฯลฯ ทำให้ช่องระหว่างเซลล์ผนังเยื่อบุลำไส้หลวม โมเลกุลที่ยังไม่ย่อยหรือสิ่งแปลกปลอมจึงซึมผ่านช่องว่างนั้นเข้าสู่กระแสเลือด ร่างกายจึงต้องสร้าง 'อิมมูลคอมเพล็กซ์' หรือภูมิต้านทานอิสระมาต่อต้านสิ่งแปลกปลอมนั้น แต่เมื่อสร้างมากเกินกว่าตับจะกำจัดได้หมด ร่างกายจึงต้องดึงเม็ดเลือดขาวมาทำลายซึ่งจะพลอยทำลายอวัยวะส่วนนั้นไปด้วย หรือที่เรียกว่า ภูมิทำลายตัวเอง นั่นเอง


ซึ่งหนึ่งในจุดประสงค์หลักของการตรวจภูมิแพ้อาหารแอบแฝงนั่นคือ อาหารที่มีปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวครับ ซึ่งผลการทดลองในการสุ่มตรวจอาหาร ทางศูนย์การแพทย์ จะใช้อาหารประมาณ 200 กว่าชนิดที่เราทานเป็นประจำ ซึ่งจะใช้เลือดของเราในการตรวจหา ภูมิแพ้อาหารแอบแฝง ครั้งนี้ครับ

"ราคาในการตรวจภูมิแพ้อาหารแอบแฝงค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 20,000 บาท ครับ"


ผลการตรวจเสร็จสิ้น จะได้รับเอกสารและผลการตรวจที่ชัดเจนออกมาครับ ซึ่งนุชาขอนำตัวอย่างอาหารที่บอยแพ้ มาให้ดูดังนี้นะครับ

" ผลการตรวจออกมาวันที่ 6 มิุนายน 2557 "









เห็นไหมครับว่า ขนาดอาหารเพื่อสุขภาพ ที่เรากินอยู่ทุกวัน อาจจะไม่ใช่อาหารที่เหมาะสมกับร่างกายเสมอไป ส่วนมากอาหารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้แอบแฝง มักจะเป็นอาหารที่ผ่านการตัดต่อพันธุกรรม หรือ มีขั้นตอนกระบวนการแปรรูปที่ใช้ฮอร์โมนครับ

ยกตัวอย่าง "นมวัว" ที่ถูกตีตราว่าเป็นอาหารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้แอบแฝง และอาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดสิว จากที่นุชา ศึกษาพบว่าเกิดกระแสบวิพากษ์วิจารณ์ทั้งไทย และต่างประเทศ ที่มีข้อถกเถียงว่า มีสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ และส่งผลเสียต่อผู้รับประทานในระยะยาวได้ในอนาคตอีกด้วย

ซึ่งสอดคล้อง กับแนวทางการรักษาสุขภาพตามแนวธรรมชาติของ Dr.Tom Wu ผู้เขียนหนังสือ "ธรรมชาติช่วยชีวิต" ให้การแนะนำว่า ผู้ที่กำลังรักษาสิวและเป็นโรคเรื้อนกวาง อยู่ ควรหลีกเลี่ยงอาหารทุกชนิดที่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นมเป็นส่วนผสม เช่น นมวัว เนยแข็ง พิซซ่า ไอศกรีม โยเกิร์ต ช็อคโกแลต และ เนื้อสัตว์ที่ถูกเลี้ยงโดยการฉีดฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตครับ


ส่วนตัวนุชาเองนะครับ อาหารที่นุชาแพ้ และทานไม่ค่อยได้ ยกตัวอย่างนะครับ 

1. นมวัว หากไม่แปรรูปเป็น โยเกิร์ต หรือ เวย์โปรตีน นุชาทานแล้วจะท้องร่วงครับ ทานไม่ได้ตั้งแต่เด็กๆ เลย คือ คุณครูแจกนมมา ก็ให้เพื่อนๆ กินซะหมด แต่นุชาก็ไม่ได้เตี้ยนะสูงตั้ง 175 เซนติเมตรเลย

2. ทุเรียน เป็นผลไม้ที่ชอบทานมาก ตอนเด็กๆ ที่บ้านไม่ค่อยมีตัง แต่แม่ก็เจียดเงินที่มีซื้อมาให้ลูกกิน แต่ก็กินได้ไม่มากหรอกครับ กินแล้วก็อ๊วก เกิดร้อนใน และ พอโตมาตอนนี้ไม่อ๊วกละครับ ดันทำให้สิวประทุแทนซะงั้น 



มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า หากอยากตรวจภูมิแพ้อาหารแอบแฝง แต่ไม่มีงบประมาณพอ ซึ่งนุชาก็เป็น 1 ในนั้น ที่ตอนนี้ยังไม่มีตังค์ไปตรวจครับ ฮ่าๆ นุชาจึงแนะนำว่า ให้ทานอาหารที่เป้นของพิื้นบ้านเรา และผ่านการแปรรูบน้อย ๆ หรืออาหารที่นักสุขภาพแนะนำว่าควรเลี้ยงสำหรับการเกิดสิวจะดีที่สุดครับ 


เคยได้ยินไหมครับว่า... หมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง เพราะเราเองคือผู้เป็นเจ้าของร่างกาย จะรู้ร่างกายของตัวเองดีที่สุด อาจจะทดสอบโดยการทดลองทานอาหารชนิดๆ นั้นดูก่อน หากไม่โอเคร สิวขึ้น มีอาการ ร้อนใน ไม่สบายตัว ก็แสดงว่าคุณอาจจะแพ้อาหารเหล่านั้นจริงๆ ได้ครับ

ติดตามพูดคุยในเพจของนุชาได้ที่นี่นะครับ

หรือค้นหา : เรื่องสิว เรื่องบ้านๆ By Nucha


ขอบคุณครับ
นุชา

10 มิถุนายน 2557
กรุงเทพฯ


ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก
http://www.hydrohealth.co.th/treatments.php?c=1&tid=39#sthash.Du4eJoQM.dpuf


อาหารแฝง, ภูมิแพ้สิว, สิว, รักษาสิว, อาหารคนเป็นสิว, 

Thursday, June 5, 2014

ประสบการณ์ทาน น้ำมัน 4 สหาย "Ze Oli" เพื่อสุขภาพ และ รักษาสิว ดีจริงหรือ?

เทรนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก ธรรมชาติ กำลังมาแรงมาก มีทั้งกระแสโฆษณาต่างๆ ร่วมด้วย
ซึ่งในยุคปัจจุบัน นุชาเห็นว่า ตอนนี้มีกลุ่มผู้รักษาสุขภาพจากภายในเพิ่มมากขึ้น จึงเสาะแสวงหาผลิตภัณฑ์มาบำรุงสุขภาพมาทานกัน


วันนี้ นุชาจะมาพูด และบอกเล่าเกี่ยวกับ น้ำมัน 4 สหาย หรือ Ze Oli ที่หลายๆ คนเคยคุ้นหนู หรือ เคยเห็นผ่านตามเว็บ และในเฟสบุ๊คครับ  ไม่สิ้นสุดกิเลส นุชาก็ สรรหามาทาน ตามคำแนะนำของพี่คนนึงที่เป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊คที่เครมว่ามันช่วยเรื่อง "สิว" ได้ด้วยนะ  เอาละเว้ย ตาลุกวาวล่ะ อยากรู้ว่าดีจริงเลยต้องจัดมาทานดู




ลักษณะของแพคเก็ทที่นุชาซื้อมา นุชาฝากพี่คนนึงซื้อมาจากสภากาชาติครับ น่าจะเม็ดละ 2- 4 บาท เมื่อกลางปีที่แล้ว ( ปี 2556 ) แล้วก็ทานหมดไปแล้วเมื่อปีที่แล้วเช่นกัน แต่ไม่ได้เอามาเล่าให้ใครฟัง เห็นช่วงนี้เป็นกระแสเลยขอหยิบยกข้อมูลมาบอกเล่าครับ


ต้นกำเนิดน้ำมัน 4 สหาย

นพ.ดำรงฯ  คุณหมอของในหลวง พูดเรื่องสุขภาพ มีประโยชน์มาก จึงขอเล่าสู่กันฟังดังนี้ค่ะ เมื่อประมาณ 17 ปีมาแล้ว หลังจากที่คุณหมอดำรง เชี่ยวศิลป์ เกษียณอายุได้ประมาณ 1 ปี ในหลวงได้ให้คุณหมอดำรงเข้าเฝ้า และหารืออยู่ราว 2 ชั่วโมง


โดยในหลวงเริ่มต้นตรัสกับคุณหมอว่า…. คุณหมอช่วยศึกษาวิจัยว่า จะมีอาหารอะไรที่จะให้ประชาชนทานแล้วแข็งแรง ไม่ต้องกินยา เพราะยากินแล้วมีแต่สุขภาพแย่ลงเนื่องจากยาเป็นสารเคมี…


และเราจะเป็นกำลังใจให้! คุณหมอดำรงใช้เวลาศึกษาวิจัยอยู่ 15 ปีและประสบความสำเร็จ ในการนำน้ำมัน 4 ชนิด คือ น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะพร้าว น้ำมันกระเทียม และน้ำมันงาขี้ม้อน


ซึ่งคุณหมอเรียกว่าสี่สหาย มีสรรพคุณเสริมสร้างร่างกายทำให้แข็งแรง สุขภาพกลับดีดังเดิม ไม่ต้องทานยาอีกต่อไป….


ตั้งแต่โรคมะเร็ง อัลไซเมอร์ เบาหวาน ความดัน โรค… ไขมันสูง แพ้ภูมิตนเอง ภูมิแพ้ และอื่นๆ อีกสารพัด (ได้ยินคุณหมอบอกว่า ทุกโรค)…. จากปากต่อปาก ตอนนี้มีผู้ทานสี่สหายแล้วนับแสนๆ คน


นอกจากสี่สหายแล้ว คุณหมอยังแนะนำสาหร่ายเกลียวทอง หรือสไปรูลิน่า (Spirulina) ซึ่งมีประโยชน์มากมาย ให้ทานควบคู่ไปด้วย คุณหมอให้โรงงานที่ดีที่สุดที่ผลิตสไปรูลิน่าด้วยกรรมวิธีที่ถูกต้องปราศจากเชื้อ ตั้งแต่ขั้นตอนของฟาร์มผลิต สไปรูลิน่าที่เป็นฟาร์มปิด by AmarapornSri






ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล

น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น 40%
น้ำมันกระเทียม สกัดเย็น 30%
น้ำมันงาขี้ม่อน สกัดเย็น 20%
น้ำมันรำข้าว สกัดเย็น 10%

         1. น้ำมันมะพร้าว - สามารถเปลี่ยนให้เป็นพลังงานได้เร็ว ไม่ถูกสะสมเป็นไขมัน ช่วยลดไขมันที่ไม่ดีในร่างกาย มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย รา

          2. น้ำมันกระเทียม - ต่อต้านอนุมูลอิสระในเซลล์ได้ทั่วร่างกาย และมีฤทธิ์แรงกว่าสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เร่งการเผาผลาญ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดการอุดตันในหลือดเลือด ป้องกันโรคหัวใจตีบ เพิ่มอัตราการเผาผลาญ ในร่างกายเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนเป็นพลังงาน เพิ่มระดับสารกลูตาไฮโอนในตับ ขับสารพิษที่คั่งค้างในตับ

          3. น้ำมันรำข้าว - มีการต้านอนุมูลอิสระ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดคลอเรสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) ซึ่งมีอยู่ในเยื้อหุ้มเมล็ดข้าวและจมูกข้าว

          4. น้ำมันงาขี้ม่อน - มี Q10 และโอเมก้า3 (ALA) ซึ่งจะมีผลเกี่ยวกับความฉลาดและความจำ
ป้องกันโรคความจำเสื่อมในวัยชรา มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ป้องกันโรคหัวใจและ
ช่วยป้องกันโรคมะเร็งบางชนิด

สรรพคุณของ Ze-Oil เครมว่า....
  • ช่วยระบบการไหลเวียนเลือด ละลายลิ่มเลือด ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ระบบทำงานไหลเวียนเลือดทำงานเป็นปกติ 
  • ลดการเกิดโรคหัวใจ หัวใจวาย หัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ พัมพาต
  • ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง 
  • ป้องกันโรคเบาหวานและบรรเทาปัญหาแทรกซ้อนจากเบาหวาน
  • ป้องกันโรคระบบสมองหรือประสาท ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ฯลฯ
  • ป้องกันโรคที่เกี่ยวกับสายตา
  • ป้องกันมะเร็ง
  • ช่วยทำให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น
  • ป้องกันโรคตับแข็ง ไวรัสลงตับ
  • ช่วยระบบกระดูกและข้อ 
  • ช่วยลดความอ้วนและระบบเผาผลาญทำงานได้ดี
  • ช่วยระบบการขับถ่าย ขจัดล้างสารพิษออกจากร่างกาย 
  • ป้องกันต่อมลูกหมากโตสาเหตุมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ช่วยปรับสภาพสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย 


รีวิวผลการทานจากนุชา

จากที่เล่าไปแล้วนะครับ ว่านุชาซื้อมาทานเพราะ มีพี่คนนึงแนะนำให้ทานดู ว่าช่วยเรื่องรักษาสิวด้วย เพราะนุชา สนใจการรักษาสิวตามแนวธรรมชาติ อยู่ นุชาเลยลองทานดู 100 เม็ด 

วิธีการทานของนุชาจะทานก่อนนอน วันละ 2 เม็ด 
และตอนเช้าก่อนอาหารหาร 2 เม็ด รวม 4 เม็ดต่อวัน ครับ 

โดยทานไป จนหมดครบ 25 วัน 

ในด้านผลการรักษาสิว ไม่รู้สึกว่าสิวดีขึ้นเลย ไม่มีผลต่อการรักษาสิวและผิวพรรณครับ

เพราะช่วงนั้นสิวอักเสบก็ ยังอักเสบแบบนั้นครับ ไม่ได้ลดอาการอักเสบลองแต่อย่างใดเลยครับ
ส่วนด้านอื่นๆ ก็ไม่ได้มีผลอะไรครับ

อาจจะเป็นน้ำมันที่บำรุงสุขภาพที่อาจจะต้องทานต่อเนื่องนานๆ ก็ได้ครับ จึงขอไม่ให้คะแนนครับ

เนื่องจากนุชา ไม่ค่อยมีงบประมาณ และไม่ได้ทำงานอะไร เลยไม่มีงบที่จะซื้อต่อ เพราะราคาค่อนข้างแพง ทานวันละ 4 เม็ด เม็ดละ 4 บาท ก็ 1 วันก็เสียเงิน 16 บาท 30 วันก็ 480 บาท ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะราคาต่างกันไป บางยี่ห้อตกเม็ดละ 10 บาท ตอนนี้นุชาไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่แล้วน่าจะสูงขึ้นมาละ

แต่ก็คงไม่ได้ซื้อทานต่อแล้วครับ ทานพวกน้ำมันงา น้ำมันมะกอก และกระเทียมสด ที่ใช้ทำอาหารที่ทานในอาหารสำหรับนุชาก็คิดว่าเพียงพอแล้วครับ



HAPPY NUCHA
XOXO

ติดตามพูดคุยในเพจของนุชาได้ที่นี่นะครับ
https://www.facebook.com/Diaryhome

หรือค้นหา : เรื่องสิว เรื่องบ้านๆ By Nucha



น้ำมันze oli, น้ำมันรักษาสิว, น้ำมันสี่สหาย,

Tuesday, June 3, 2014

เป็นสิวล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เป็นเรื่องที่ไม่ควรปฏิบัติ !



หลายๆ คน ที่เป็นสิวมักเผลอ และ คิดว่า การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น จะช่วยทำให้เปิดรูขุมขน และทำให้สิว หายไปไวขึ้น............ แต่ความจริงแล้วไม่จริงเลยครับ



ความจริงแล้ว หลายคนคงไม่ทราบว่า การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นนั้น ทำให้ผิวหน้าของเราแห้ง ถึงแม้จะเป็นการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าโดยไม่ใช้ผลิตภัณฑ์การล้างหน้าใดๆ ก็ตาม



น้ำอุ่นที่เราใช้ล้างหน้านั้น จะทำหน้าที่ชะล้าง น้ำมันที่คอยหล่อเลี้ยงผิวที่ทำให้ผิวเราเกิดความสมดุลนั้นจะถูกกำจัดออกไปจำนวนมาก หากผิวหน้าของเรา ไม่มีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว น้ำมันระหว่างเซลล์ที่ทำหน้าที่คอยปกป้องผิว ก็จะถูกชำระล้างออกไปง่ายขึ้น 



ดังนั้น แม้ว่า คนเป็นสิว หรือไม่เป็นสิวก็ตาม ก็ควรล้างหน้าด้วย ":น้ำธรรมดา"  น้ำธรรมดาในที่นี้หมายถึง น้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ใช่น้ำอุ่น หรือ น้ำร้อนครับ 



ถ้าต้องการแช่ตัวในอ่างน้ำอุ่นๆ คุณควรแช่ตัวโดยไม่ต้องเช็ดเครื่องสำอางออก เครื่องสำอางที่เคลือบผิวคุณจะช่วยปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำมันจากน้ำอุ่น เมื่อแช่ตัวเสร็จจึงใช้คลีนเซอร์ล้างหน้า




หากคุณคิดว่าคุณเป็นคนผิวมัน คุณจะล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นได้ จงระวัง! เมื่อผิวแห้งขึ้นน้ำมันจะยิ่งออกมาซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวในคนส่วนใหญ่



ข้อดีของการล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ นอกจากจะทำให้ผิวของเราไม่อ่อนแอ แพ้ง่าย แล้วนั้น ยังจะช่วยลดอาการผิวแห้งได้ดีอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบของผิว และสิว เนื่องจากผิวที่สูญเสียความชุ่มชื่นด้วยครับ




พญ.ฮิราตะ ประเทศญี่ปุ่น "ผู้สนับสนุนการล้างหน้าด้วยน้ำธรรมดา" ให้ความเห็นว่า :
“เพียงล้างหน้าด้วยน้ำธรรมดาสองสัปดาห์ต่อเนื่องกันสภาพผิวจะดีขึ้น บางคนไม่ต้องใช้ยาทาเลยนะคะ”




ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก :

 เคล็ดลับผิวใส สไตส์ญี่ปุ่น เขียนโดย มายะ ฟูจิตะ  ISBN 978-616-7244-06-8 




ติดตามพูดคุยในเพจของนุชาได้ที่นี่นะครับ
https://www.facebook.com/Diaryhome

หรือค้นหา : เรื่องสิว เรื่องบ้านๆ By Nucha

HAPPY NUCHA 
3 มิถุนายน 2557

Monday, June 2, 2014

บันทึกรักษาสิวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค ตอนที่ 4 (ภาคจบ)

อันนยองฮาเซโย...  สวัสดีครับ ช่วงนี้นุชาหายไป แต่ไม่ได้ไปไหนหรอกครับ ยังคอยติดตามและ ยังคอยอัพเดทบล็อคเป็นพักๆ ครับ

วันนี้นุชาจะมา อัพเดท และรายงานผลจากที่นุชาได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง และนำมาปรับใช้ แบบ บทความนี้จะเป็นตอนจบของการพบแพทย์ผิวหนังที่จะอัพเดท และอาจจะมีต่อไปหากมีรายละเอียดเพิ่มเติมใน บทความเกี่ยวกับแพทย์ผิวหนังต่อไปครับ

หากไม่เคยอ่านบทความที่ผ่านมา นุชาแนะนำให้ผ่านความเดิมตอนที่แล้ว ตามนี้นะครับ

ความเดิมตอนที่แล้ว

ตอนที่ 1 http://happyacne2you.blogspot.com/2014/05/2.html
ตอนที่ 2 http://happyacne2you.blogspot.com/2014/05/1.html
ตอนที่ 3 http://happyacne2you.blogspot.com/2014/05/3.html


มาอัพเดทสภาพผิวหน้ากันก่อนนะครับ




"
จากสภาพผิวหน้า ตอนนี้สิวรอบปากได้ผุดออกมา และ ค่อยๆ ยุบหายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
ยังคงมีรอยสิว และหลุมสิวประปราย แต่เมื่อเปรียบเทียบรูปตอนเป็นสิว และ ตอนนี้
ดีขึ้นมากเลยครับ ขนาดเพื่อนที่เรียน มหาลัย ยังทักเลยครับว่าดีขึ้นมากจริงๆ 
"


ขอสรุปบทความนี้เลยละกันนะครับ


ประเด็นที่ 1 การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า  

            นุุชาทำแล้วสิวไม่ขึ้นครับ แต่นุชาชอบเรื่องความสะอาด เพราะนุชา อยู่ กทม. ต้องดำเนินชีวิต ที่มีสภาพอากาศที่มีมลพิษ ฝุ่นควันสูง ขึ้นรถสองแถว ขึ้นรถเมย์ เจอฝุ่น ควัน เยอะไปหมด การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าจึงทำได้น้อย อาจจะทำได้แค่ช่วงที่อยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหนเลย แต่หากไปนอกบ้าน ก็ใช้สบู่กรีเซอรีนที่ทำใช้เอง ถูให้เกิดฟอง แล้วค่อยล้างออกเบาๆ เอาครับ แต่ความรู้สึกล้างด้วยน้ำเปล่า จะแปลกๆ สำหรับนุชา เนื่องจากนุชาเป็นคนหน้ามันมาก เมื่อเวลาล้างด้วยน้ำเปล่า ไขมันจะติดออกมาที่มือเลยครับ น่าจะนึกภาพออกนะครับ  สรุปคือ สิวไม่ขึ้นเพิ่ม หน้าชุ่มชื่นดี ไม่มันมากในระหว่างวันแต่อย่างใดครับ เป็นอีกความรู้หนึ่งที่นุชาได้รับว่า การที่เราเป็นสิว การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าก็ดีเหมือนกันครับ


ประเด็นที่ 2 การทาครีม ด้วยการวอมครีมบนฝ่ามือก่อน

            ตอบตามตรงตลอดที่ผ่าน รักษาสิวจนเกือบหายสนิท นุชาทาครีมด้วยนิ้วมือตลอดมา เข้าใจว่า ทาด้วยการวอมครีม เป็นการสิ้นเปลืองครีมมาก แล้วครีมมันจะซึมลงผิวได้ยังไง แต่แล้วมันความคิดที่นุชาคิดผิดไปแล้วครับ เพราะการทาครีมแบบนี้ รวมถึงการทายารักษาสิวต่างๆ เมื่อใช้นิ่้วมือทา โอกาศที่ยาจะทำปฏิกริยากับผิวที่ทำให้เกิดการระคายเคืองมันมีมากกว่าทาทาครีมด้วยการ วอมครีม บนฝ่ามือ หรือ นิ้วมือ แล้วค่อยๆ ทาบลงไปครับ จะระคายเคืองน้อยกว่ามากครับ

            เมื่อนุชา ลองปฏิบัติดู จากเดิมเมื่อล้างหน้าแล้วจะเกิดอาการผิวแดง และแสบ แต่ตอนนี้ อาหารแดง แสบคัน หายไปแล้วครับ นุชาขอทำวิธีนี้ต่อไปแล้วกันครับ


ประเด็นที่ 3 งดการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกอย่าง เมื่อเป็นสิว ยกเว้นยารักษาสิว

            นุชาว่าเป็นวิธีการที่ดีเลยครับ เพราะช่วงที่เป็นสิว ควรงดการรบกวนผิวให้ใมากที่สุด ยิ่งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับไวเทนนิ่ง งดได้ยิ่งดี สิวจะได้ไม่เห่อไปมากกว่าเดิมครับ  ตอนนี้นุชาก็มีพักหน้าบ้าง แล้วแต่อารมณ์ครับ ให้ผิวได้หายใจบ้างไรบ้าง บำรุงมากเกินไปสิวขึ้นก็มีครับ

           เมื่อก่อนพ่อของนุชาเล่าว่า ตอนพ่อเป็นสิว พ่อไม่เคยใช้ยาอะไรเลย ล้างแต่น้ำเปล่า แทบไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับหน้าเลย แต่สิวมันก็หายไปเองได้นะ แล้วตอนนี้พ่อนุชาก็ไม่มีหลุมสิวด้วยหละครับ


ทั้งสามประเด็นคือส่วนหนึ่งที่นุชาได้เป็นความรู้ใหม่ครับ นอกจากสิ่งที่เล่ามาทั้งหมดแล้ว ปัจจัยที่เป็นตัวแปรการเกิดสิวอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ด้วย เช่น การนอน การทานอาหาร การออกกังกาย และ การใช้ครีมที่มีสารเคมี สารปรอท ครีมเถื่อนๆ ทั้งหลาย หากเรารู้ว่าเราทำอะไร รู้สาเหตุที่เป็นสิว





เป็นสิวที่เกิดจากฮอร์โมน ก็ดูแลจากภายในเป็นหลัก


เป็นสิวที่เกิดการครีมอันตราย ก็เลิกใช้ แล้วรักษา (ใช้เวลาค่อนข้างนาน)


เป็นสิวที่เกิดจากการนอน ก็นอนแต่หัวค่ำ


ดูแลผิวให้ถูกวิธี ตามที่ควรจะเป็น แล้วสิวก็จะไป ตามเหตุที่เราทำนั่นเองครับ





แล้วพบกับบทความหน้าครับ สวัสดีครับ




HAPPY NUCHA

2 มิถุนายน 2557