แต่นุชา.. คิดว่าหลายๆ คน คงไม่ทราบแน่นอนว่า การนอนที่ได้ผลดีนั้นต้องมีวิธี หรือ เคล็ดลับ อย่างไร ไม่ใช่แค่หัวถึงหมอน แล้วนอนแน่นอนครับ จากการทดลองปฏิบัติที่นุชา ทดลอง และปฏิบัติมานาน นุชาทำมากับตัวเอง นุชาเลยอยากนำมาแบ่งปันให้ทุกๆ คนทราบกันครับ ว่าต้องทำอย่างไรให้ถูกต้องนะครับ
สิ่งที่นุชาได้ทดลองปฏิบัติที่นุชาอยากนำมาเล่า นุชาได้ปฏิบัติดังนี้นะครับ
1. นอนช่วง 3 - 4 ทุ่ม หลายคนคงอาจจะเคยได้ยิน นักธรรมชาติบำบัด หรือ กูรูด้านสุขภาพ มามบ้างแล้วว่าการนอนช่วงเวลานี้ทำให้เราสุขภาพดี ส่วนมากจะแนะนำนอนช่วง 4 ทุ่ม และไม่ เกิน 5 ทุ่ม เหตุผลที่ว่าต้องนอนก่อน 5 ทุ่ม
ก็คือ 5 ทุ่ม - ตี 1 ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตับกำลังทำงาน ในการขับสารพิษนั่นเองครับ หากเรานอนดึกกว่านี้ การทำงานของตับจะทำงานได้เป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้ตับทำงานหนักได้ และระบบการขับสารพิษในร่างกายทำงานไม่เต็มที่ ส่งผลทำให้เกิดสารพิษสะสมในร่างกาย และท้ายที่สุดอาจจะทำให้เกิดสิวได้ในที่สุดครับ
และจากการศึกษาหนังสือ ธรรมชาติช่วยชีวิต เขียนโดย Dr.Tom Wu ดร.ด้านโภชนาการและการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติจากสหรัฐอเมริกา ตีพิมเมื่อ พ.ศ. 2555 กล่าวว่า " ช่วงเวลา สองทุ่ม ถึง ตีสี่ เป็นเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเองและแจกจ่ายสารอาหาร" ซึ่งสอดคล้องกับที่นุชาได้ศึกษาและเข้าใจมา
จากสองทุ่มถึงตีสี่ ตับที่ซึ่งผ่านการดูดซึมและสะสมสารอาหารไว้ จะเริ่มทำการแจกจ่ายสารอาหารไปยังอวัยวะต่างๆ พร้อมกับส่งมอบพลังงานให้แก่อวัยวะต่างๆ ทดแทนส่วนที่ใช้ไปแล้วในหนึ่งวัน โดยเฉพาะช่วงเวลาสี่ทุ่มถึงตีสองเป็นเวลาที่ระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองทำงาน หรือ เป็นช่วงเวลาทอง ของการนอนหลับ ทั้งยังเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเมลาโทนนิน (ฮอร์โมนแห่งความอ่อนเยาว์) จะควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองได้ดีที่สุด
2. ไม่ทานมื้อหนักในตอนดึก
ในช่วงเวลานี้แน่นอนครับว่า เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการพักผ่อน กระเพราะของเราจะไม่สามารถคัดหลั่งน้ำกรด และลำไส้จะไม่สามารถดูดซึมและย่อยอาหารได้หมด หากเราทานมื้อหนักในช่วงเวลานี้ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ จะมีของเสียสะสมจนถึงตอนเช้า และ เข้าสู่วันต่อไป ถึงแม้ว่าเราจะถ่ายของเสียในช่วงเวลาตอนเช้าออกมาแล้ว แต่ของเสียก็จะออกมาไม่หมดครับ (หรือเรียกว่าถ่ายไม่สุด)
3.ควรปิดไฟในห้องขณะนอนหลับ
ระบบภูมิคุ้มกันจะทำงานเพื่อซ่อมแซมและกำจัดเชื้อโรคทั่วร่างหายระหว่างเวลา 4 ทุ่ม ถึง ตีสองทุกวัน ในขณะเดียวกันระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองก็จะชาร์จไฟเติมพลังงานในช่วงเวลานี้เช่นกัน เพื่อจะได้ทำหน้าที่ทำลายข้าศึกและซ่อมแซมบาดแผล
ควรจะนอนหลับในขณะที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง และต้องอยู่ในความมืดที่สมบูรณ์และทำให้ห้องมืิดสนิท อย่างให้มีแสงหว่าง ยกตัวอย่างการปฏิบัติของนุชานะครับ เนื่องจากห้องของนุชา เป็นห้องชุด หมู่บ้านเอื้ออาทร นุชามาพักอาศัยกับพี่สาว ซึ่งในห้องจะมีเพียง 1 ห้องนอน ดังนั้นนุชาจึงออกมานอนข้างนอก และใช้ตู้กันเป็นห้อง เมื่อตกกลางคืน เมื่อปิดไฟ ก็ยังมีไฟหน้าเปิดหน้าตึกไฟที่สอดส่องเข้ามาในหน้าต่างทำให้ไม่มืดสนิท นุชาจึงใช้ที่ปิดตาในการปิดตา เพื่อให้มืดสนิท และทำให้หลับได้ง่ายขึ้นและทำให้เมโทลานินทำงานได้เต็มที่นั่นเองครับ
เคยมีการทดลองในอเมริกาโดยให้ผู้เข้าทดลองนอนหลับระหว่างสี่ทุ่มถึงตีสอง แต่เปิดไฟสว่างจ้าไว้ในห้อง จากการตรวจสอบด้วยเครื่องมือทางการแพทย์พบว่าการทำงานของระบบรักษาตัวเองเกือบเท่ากับศูนย์ ส่วนระบบภูมิคุ้มกันก็ทำงานลดลงถึงจุดต่ำสุด
ด้วยเหตุนี้ หากเราอยากขจัดความอ่อนเพลีย ทำให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองไปใช้ทำอย่างอื่นเด็ดขาด หากนอนไม่หลับไม่สนิทในช่วงสี่ทุ่มถึงตีสอง ต่อให้มีเวลานอนยาวนานเพียงไรก็ส่งผลในการซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกายเพียงเล็กน้อย เซลล์ที่ถูกทำลายจะไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายเพียงเล็กน้อย เซลล์ที่ถูกทำลายจะไม่สามารถฟื้นฟูให้หายขณะืี่ข้าศึก (เชื้อโรค) ที่รุกเข้ามาในร่างกายมีโอกาสฝังตัวอยู่
พูดถึงเมลาโทนิน กันซักหน่อยนะครับ เมลาโทนิน เป็นฮอร์โมนที่หลังออกมาจากไพเนียลบอดี (Pineal Body) สมอง เป็นสมอง เป็นสารที่สกัดได้เป็นครั้งแรกจากไพเนียลบอดีของวัว ในปี ค.ศ 1985 ปัจจุบันพบว่าฮอร์โมนชนิดนี้ช่วยกระตุ้นการนอนหลับ ปรับจังหวะเวลาของร่างกาย (นาฬิกาชีวิต) เกี่ยวกับกลางวันและกลางคืน ส่งผลต่ออารมณ์ ช่วนต้านออกซิเดชัน กำจัดอนุมูล อิสระ รวมทั้งกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวแบบที และปล่อยไซโทคิน (Cytokines) เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีบทบาทในการต้านมะเร็ง
งานวิจัยในประเทศไทย
งานวิจัยในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับสารเมลาโทนินที่ข้าพเจ้าได้ค้นคว้ามา มีดังนี้
- รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และบริษัท แดรี่โฮม จำกัด ได้ทำการศึกษาและวิจัยน้ำนมพาสเจอไรซ์ที่ผลต่อการนอนหลับ พบว่า การเปลี่ยนวิธีการรีดนมวัวในช่วงเวลาที่ไม่มีแสงสว่างทำให้ได้สารเมลาโทนินบริสุทธ์ที่มีคุณภาพมาก ช่วยทำให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาการนอนหลับ ชะลอชรา และป้องกันความเหี่ยวย่นไขมันต่ำกว่านมทั่วไปถึง 1 ใน 3 เท่าของนมปกติ ขณะนี้ได้ขอจอสิทธิบัตรกรรมวิธีการผลิตเรียบร้อยแล้วและอยู่ในระยะขอจดทะเบียนยา (อย.) อีกด้วย
- สารอาหารอีกอย่างหนึ่งที่มีสารเมลาโทนินคือ “น้ำมันจมูกข้าว” จากการศึกษาค้นคว้าวาของนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ ในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษพบว่า ฮอร์โมนเมลาโทนินสร้างขึ้นในร่างกายของคนเรา โดยสร้างจากต่อมไพเนียลในสมอง เมลาโทนิน จะสร้างออกมาในช่วงเวลกลางคืน เมื่อคนเราอายุมากขึ้นเมลาโทนินจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่ออายุ 50 ปี เมลาโทนินจะมีน้อย
หรือไม่มีเลย - จากการวิจัยในทางการแพทย์ พบว่า เมลาโทนิน มีความสำคัญต่อสุขภาพของคนเราดังนี้ ควบคุมการนอนหลับ ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ไม่เครียด ไม่วิตกกังวล ป้องกันและรักษาโรคสมองเสื่อม โรคพาร์กินสัน แก้ไขอาการหลงลืม หงุดหงิด เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น จึงช่วยผู้ป่วย HIV ได้มาก เสริมการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในคนสูงอายุ ป้องกันและเสริมการรักษาโรคมะเร็ง แก้ไขอาการเจ็ทแล็ก (JIT- - LEG) แก้ไขอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เพราะร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และไม่รู้สึกเครียด ไม่รู้สึกวิตกกังวล สมรรถภาพทางเพศจึงดีขึ้น
- ศาสตราจารย์ นายแพทย์อนันต์ ศรีเกียรติขจร ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาสารเมลาโทนิน พบว่า สารเมลาโทนินสามารถยับยั้งการเพิ่มของการไหลเวียนเลือดที่ผิวสมอง และลดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดจุลภาค นอกจากนี้สารเมลาโตนินยังสามารถยับยั้งการแสดงออกของโปรตีนฟอส และเอนไซม์ไนตริกออกไซด์ซินเทสในกลุ่มเซลล์ไทรเจมมินาล นิวเคลียสคอดาลิส ผลการศึกษานี้บ่งว่าสารเมลาโทนินสามารถยับยั้งผลของปรากฏการณ์คอร์ติคอลสเปรดดิงดิเพรสชันในการกระตุ้นระบบความปวดไทรเจมมินาล และอาจเป็นประโยชน์ในการป้องกันหรือบรรเทาอาการปวดในภาวะปวดศีรษะไมเกรน
22 มิถุนายน 2557
กรุงเทพฯ
แหล่งอ้างอิง
- ประสบการณ์ของนุชาเอง
- นังสือ ธรรมชาติช่วยชีวิต เขียนโดย Dr.Tom Wu ดร.ด้านโภชนาการและการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติจากสหรัฐอเมริกา ตีพิมเมื่อ พ.ศ. 2555
- http://www.gotoknow.org/posts/304967
การนอนรักษาสิว, สิวนอนดึก, นอน, สิวนอน, นอนดึกสิว,
No comments:
Post a Comment