วันนี้นุชาได้นั่งอ่านบทควาามเก่ียวกับกลุ่มวิตามินที่ช่วยรักษาสิวและทำให้สิวดีขึ้นได้ ก็ไปเจอข้อมูลเกี่ยวกับ โอเมก้า 3 ซึ่งน่าสนใจเลยทีเดียว
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นุชารักษาสิวของตัวเอง ในช่วงรักษาสิวนั้นนุชาจะไม่ทานยาอะไรเลย นอกจากวิตามิน เช่น สารกัดจากเมล็ดองุ่น วิตมินซี บีรวม น้ำมันปลา น้ำมันฟักข้าวสกัด วิตามินแต่ละชนิิดก็ไม่ได้ทานกันติดต่อกันนานๆ เพราะด้วยความขี้เกียจไปซื้อ และ ต้องการให้ร่างกายพักบ้าง
มาทราบภายหลังว่าน้ำมันปลาที่นุชาทานประจำมีส่วนประกอบของโอเมก้า 3 ที่มันช่วยลดการอักเสบของสิวได้ด้วยโดยที่นุชาไม่ต้องทานยาแก้อักเสบช่วงที่สิวเห่อเลย แต่ต้องทานต่อเนื่องสม่ำเสมอด้วยนะครับ
โอเมก้า 3 คืออะไร ?
กรดไขมันโอเมกา-3 (omega-3) ซึ่งเป็นโครงสร้างไขมันสำคัญในสมองและจอประสาทตา เป็นกลุ่มของกรดไขมันชนิดที่ไม่อิ่มตัวสูง เป็นหนึ่งในกรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty acid) ที่ร่างกายมนุษย์ขาดไม่ได้
ดร.อลัน ไรอัน จาก มาร์เท็ค ไบโอไซน์ส (Martek Biosciences) นำเสนอผลการวิจัย จากการบริโภคกรดไขมันโอเมกา-3 ในเด็กอายุ 4 ขวบ ที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี ผลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ายิ่งมีระดับกรดไขมันโอเมกา-3 ในเลือดมากเท่าใด เด็กก็จะทำแบบทดสอบด้านการรับรู้ได้ดีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในการบริโภคอาหารในแต่ละวันควรมีการผสมกรดไขมันโอเมกา-3 ในอาหารสำหรับเด็ก ซึ่งกรดไขมันโอเมกา-3 พบได้ในไขมันปลา แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านยังให้คำแนะนำว่าสตรีและเด็กควรบริโภคไขมันปลาในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป
กรดไขมันโอเมกา-3 มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง ตับ และระบบประสาทเกี่ยวกับการพัฒนาเรียนรู้ รวมทั้งเกี่ยวกับเรตินาในการมองเห็น นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อโภชนาการและสุขภาพของคนเรา เช่น ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอล และไตรเอธิลกลีเซอรอล (triethylglycerol) ในพลาสมา ควบคุมระดับไลโปโปรตีน (lipoprotien) และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและหน้าที่ของเกล็ดเลือด จึงมีแนวโน้มก่อให้เกิดผลดีในการลดอันตรายของโรคทางเดินหายใจ โรคไขมันในเส้นเลือด โรคหัวใจและโรคซึมเศร้า โอเมกา-3 พบมากในปลาทะเล และ ปลาน้ำจืดบางชนิด
ประโยชน์ของโอเมก้า 3 นุชาสรุปและค้นจากหลายๆ ทางมีดังนี้ครับ
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอร์รอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ ที่เป็นอันตราย ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายเฉียบพลัน และเส้นเลือดในสมองแตก
- ลดความหนืดของเกร็ดเลือด และลดปริมาณสารไฟบรินในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดในกระแสเลือด
- ช่วยป้องกันอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งเป็นภัยเงียบที่สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- ช่วยลดความเสี่ยง ป้องกันมะเร็งเต้านม
- ช่วยลดบรรเทาอาการคันและแห้งของโรคสะเก็ดเงิน
- ลดการต้านเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่าย ในผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ
- ช่วยในการลดความถี่และความรุนแรงของโรคปวดศรีษะไมเกรน
- ช่วยให้ผิว ผม และเล็บมีสุขภาพดี
- ช่วยป้องกันหลอดเลือดแดงแข็ง
- ต่อต้านผลร้ายจากสารผโพรสตาแกลนดิน (ลดภูมิต้านทานและเพิ่มการเติบโตของเนื้องอก)
- ช่วยบรรเทาอาการโรคข้ออักเสบ รูมาตอยด์
** สำหรับผู้ป่วยที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่นคูมาดินหรือเฮปาริน ไม่ควรรับประทานโอเมก้า3 นอกจากแพทย์แนะนำ
ปริมาณที่ควรได้รับโอเมก้า 3
ไม่ควรเกิน 3 กรัมต่อวัน เพราะหากได้รับเกินจากนี้จะเกิดผลเสียต่อร่างกายได้
แหล่งโอเมก้า 3 พบได้ที่ไหนบ้าง นุชาแนะนำได้ดังนี้คือ
- น้ำมันปลา (นุชาทานของวีสตร้าที่เป็นน้ำมันจากปลาแซลมอลครับ)
- อาหารทะเล
- น้ำมันคาโนลา
- เมล็กแฟลกซ์ หรือน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์
- ถั่วแระ
- วอลนัท
- ผลิตภัณฑ์จากนม
- ผักโขม
- ถั่วเหลือง
ขอบคุณข้อมูลจาก
*************
ติดตามนุชาที่เพจ : https://www.facebook.com/Diaryhome
คุยกันในไลน์ : http://line.me/ti/p/@mdt6242v
Line : @mdt6242v (มี@ข้างหน้า)
No comments:
Post a Comment