Friday, May 9, 2014

ตรวจสอบร่างกายของตัวเอง ว่าทำไมถึงเป็นสิว ตอนที่ 1

อยู่บ้านไม่ต้องทำอะไรกันแล้วครับ พกกระจกติดตัว นั่งๆ นอนๆ ส่องหน้าทั้งวัน.....
ทำไม ทำไม ทำม้ายยยยย ชั้นถึงเป็นสิว เป็นคำถามที่นุชา ถามตัวเองทุกๆ วัน
สิวยุบไปซักพักไม่ถึงอาทิตย์ ก็ผุดๆ ขึ้นมาอีกแล้ว ประหลาดจริงแท้ครับ 

บางครั้งก็เครียดนะครับ นุชาพยายามหาสาเหตุอยู่ตลอดว่าสิว ที่ขึ้นเกิดจากอะไรกันแน่ ? 
สิวที่มักขึ้นบน ใบหน้าของนุชานั้น สิวใหย๋ จะเกิดขึ้นบริเวณแก้มทั้งสองข้างครับ

ทำอย่างไร ทำยังไง สิวมันก็ไม่หายขาดไปซะที ทั้งๆ ที่ดูแลเรื่อง อาหาร การกิน
ยกเว้นเรื่องหนึ่งคือ การออกกำลังกาย เพราะนุชาไม่ได้ออกเลยครับ 

เมื่อมาตรวจดูสภาพร่างกายของตัวเองแล้ว ภายนอกดูผิวเผิน อาจจะเป็นคนสุขภาพดีแข็งแรง
แต่.. ไม่เลยครับ นุชามีอาการไอมีเสมหะมาตลอด เวลากินน้ำเย็น อยู่ในอากาศที่เย็น ห้องแอร์
ก็จะเกิดอาการไอ บางทีก็ไอแบบหนักมากครับ มาตรวจดูตาม Map Skin แล้ว สิวที่ขึ้นตรงแก้ม
บ่งบอกถึงสุขภาพของ "ปอด" นั่นเองครับ
ถามว่าตรงไหม..... ตรงมากครับ มันสัมพันธ์กันจริงๆ ครับ ช่วงก่อนที่รักษาสิวด้วยตนเอง 
อาการไอแบบนี้ ของนุชาได้หายไปแล้ว สิวก็หายไปด้วยครับ แต่พอ ย้ายมาเรียนอยู่ กทม
อาการไอ ก็กำเริบอีกครั้ง แต่นุชาไม่เคยสนใจ หรือ รักษา จริงจังซักเท่าไหร่ครับ



บอกก่อนครับว่านุชา ค่อนข้างสนใจการรักษาสุขภาพ เน้นธรรมชาติ ไม่ค่อยสนับสนุน การทานยา
ยาประเภคเคมีสังเคราะห์ หรือ อะไรก็ตามแต่ที่อาจจะส่งผลดีในระยะสั้นๆ แต่ส่งผลเสียในระยะยาวครับ

หลายวันก่อน ได้ศึกษา สาเหตุว่าทำไม นุชาถึงมีอาการไอแบบนี้ ได้คำตอบจากหมอเชน 
หนุ่มแพทย์แผนจีน  สำเร็จการศึกษาปริญญาโท แผนกแพทย์แผนจีน สาขานรีเวชวิทยา มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนประจำนครเซี่ยงไฮ้ (ทุนรัฐบาลจีน)

หมอเชนกล่าวว่า....

เสมหะ คือ น้ำเมือกที่เราไอออกมาจากปอดและผสมกับน้ำลายขับออกสู่ร่างกาย

เสมหะเป็นสีเขียว เหลือง หรือน้ำตาล หมายถึงว่าร่างกายคุณกำลังต่อสู้กับการติดเชื้ออยู่ ถ้าเป็นสีเทาหรือน้ำตาลอาจเกิดจากการสูบบุหรี่หรือฝุ่น

1. คุณชอบทานของเย็น ไอติม น้ำแข็ง น้ำเย็น 

2. คุณชอบทานของดิบๆ เช่น ปลาดิบ

3. คุณชอบทานผักผลไม้จำพวกฟักแตง ผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น เช่น แตงโมง ฟัก แตงกวา สาลี่ แถมเวลาจะทานต้องเอาออกมาจากตู้เย็นใหม่ๆถึงจะเย็นชุ่มฉ่ำไปถึงทรวง

4. คุณกินดีอยู่ดีเกินไป กินของหวานๆมันๆ กินของเลี่ยนๆทอดๆ นมเนยไม่เคยพอ นัยว่าสั่งพิซซ่าขอบชีส เพิ่มหน้าชีสเยอะพิเศษแล้วขอกระปุกชีสมาโรยเพิ่มต่างหากอีก

5. คุณเป็นคนคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย อารมณ์แปรปรวนง่าย

6. คุณดื่มน้ำไม่ถูกวิธี 

7.คุณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลเป็นประจำ

8. คุณนอนดึก (เกินห้าทุ่ม) เป็นประจำ (ควรนอนอย่างไรเชิญทีนี่ )

9. คุณเป็นคนเซ็กซ์จัด มีเพศสัมพันธ์หรือสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองบ่อย (งงละสิเจอข้อนี้เข้าไป  จะรอดูว่าใครจะพยักหน้ากับข้อนี้บ้าง )

10. คุณร่างกายอ่อนแอ ไม่มีแรง ไม่สบายบ่อยมาตั้งแต่เด็ก

สาเหตุหลักจริงๆที่ทำให้เกิดเสมหะขึ้นละกันครับ จากคำถามสิบข้อข้างบนนั้น สุดท้ายทั้งหมดส่งผลแบบเดียวกันคือ ทำให้ "ไฟในระบบการย่อยอาหาร" ดับมอดลง หรือพูดอีกอย่างว่าระบบการย่อยอาหารไม่ดีนั่นเอง

สิ่งที่ทุกคนมักมองข้ามเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหารคือ เราจำเป็นต้อง "ย่อย" น้ำก่อนจะดูดซึมน้ำเข้าสู่ระบบหมุนเวียนของร่างกายเฉกเช่นเดียวกับอาหาร ถ้าระบบการย่อยอาหารไม่ดีแล้ว ระบบการหมุนเวียนของน้ำในร่างกายก็จะผิดปกติ น้ำจะคั่งค้าง รวมตัวกันเป็นก้อน และกลายเป็นเสมหะในที่สุด อย่าลืมว่าเสมหะคือ "น้ำ"เมือกผสม "น้ำ" ลายนะครับ



ระบบการย่อยอาหารไม่ดีเกิดจากไฟหรือธาตุหยางในกระเพาะน้อยลง ตามธรรมชาติ ไฟข่มน้ำ น้ำข่มไฟรักษาความสมดุลย์เอาไว้ ยามนี้เราดันมีพฤติกรรมดับไฟทิ้ง น้ำเลยกลายเป็นโรคขึ้นมาครับ



อาการธาตุหยางในกระเพาะน้อยลงเนี่ย ไม่ได้มีเพียงแค่อาการมีเสมหะเพียงอย่างเดียวหรอกครับ ยังมีอาการอีกมากมายตามมาเป็นขบวนเลย เช่น


ร่างกายไม่ค่อยมีแรง เหนื่อยง่าย หัวหนักๆเหมือนมีอะไรกดทับอยู่ตลอด

ถ่ายเหลว กินอะไรเข้าไปแล้วออกมาเป็นสิ่งนั้นเหมือนไม่ได้ผ่านการย่อยเลย (อาจเป็นท้องผูกได้ในบางกรณี)

คลื่นไส้บ่อย อาหารไม่ย่อย ท้องอืดท้องเฟ้อ ลมเยอะ

ขี้หนาว มือเท้าเย็น

ยามอยู่ในที่เย็นๆ เช่น ห้องแอร์ หรือเจอสภาพอากาศแบบครึ้มฟ้าครึ้มฝน ฝนตก อาการต่างๆจะยิ่งหนักขึ้น



ถ้ามีอาการต่างๆเหล่านี้เสริมด้วยยิ่งมั่นใจว่าระบบการย่อยของคุณมีปัญหาจริงๆ (ไม่จำเป็นต้องมีหมดทุกอาการนะครับ)



แต่ถ้ามีเพศสัมพันธ์ "บ่อย" อันนี้ทำร้ายร่างกายหนักกว่าเดิมอีกครับ เพราะเป็นการใช้ธาตุหยางที่ไต อาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่าทางแพทย์จีนแล้วถือ"ไต" (ไม่ได้เป็นอวัยวะไตตามสรีระวิทยาของแพทย์แผนปัจจุบันนะครับ) เป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุด ธาตุหยางที่ไตถือเป็นต้นกำเนิดของธาตุหยางทั้งหมดในร่างกาย แม้กระทั่งไฟหรือธาตุหยางที่ใช้ในการย่อยอาหารก็มาจากไตเช่นกัน



ธาตุหยางที่ไตพร่องยังมีอาการต่างๆ เช่น ปวดเมื่อยเอว เข่าไม่มีแรง ผมร่วง ฟันโยกง่าย กระดูกตามร่างกายมีปัญหา ระบบปัสสาวะผิดปกติ อาจจะเป็นปัสสาวะบ่อยเกินไปทั้งที่ทานน้ำน้อย หรืออาจจะปัสสาวะน้อยเกินไปก็ได้ ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ มีลูกยาก เป็นต้น



ส่วนร่างกายอ่อนแอ ไม่สบายบ่อยแต่เด็กนี่คงบอกได้แต่ว่าเป็นตั้งแต่พ่อแม่ เช่น ก่อนคลอดไม่มีการดูแลที่ดี หรือกรรมพันธุ์ไม่ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแก้ไขไม่ได้นะครับ สามารถทานยาปรับสมดุลให้ดีขึ้นได้เช่นกัน


อีกปัญหาหนึ่งที่ว่าทำไมตื่นเช้าแล้วถึงมีเสมหะมากนั้น สามารถอธิบายได้ว่า เพราะยามที่นอนหลับนั้นร่างกายไม่มีการขยับเขยื้อน น้ำเมือกก็ยังคงผลิตอยู่ และกักเก็บไว้ในปอด พอตื่นนอนจึงออกมาเป็นเสมหะก้อนโต ส่วนยามกลางวันนั้นมีการเคลื่อนไหว มีการขากออก ร่างกายมีการดูดซึมและขับออกจากร่างกาย เสมหะจึงไม่ชัดเจนเหมือนเช่นตอนตื่นนอน


เมื่อรู้สาเหตุแล้ววิธีการแก้ไขก็ชัดเจนขึ้นมาเอง สาเหตุข้อไหนที่ตรงกับคุณก็หยุดทำมันซะ (พูดง่ายเนอะ แต่ก็ง่ายๆแบบนี้แหละ ทำได้รึเปล่าละ ) นี่เป็นเงื่อนไขข้อแรกและเป็นข้อที่สำคัญที่สุดในการขจัดเสมหะ วิธีการรักษาอื่นๆนั้นเป็นเพียงตัวช่วยเสริมเท่านั้น


อื่นๆที่พอจะช่วยได้นอกจากทานยาจีนต้มก็เช่น การทานน้ำขิง กินลูกเดือย(อาจจะต้มกิน) หรือจิบน้ำผึ้ง เป็นต้น การปรับตัวร่างกายเหล่านี้ล้วนใช้เวลานาน จำเป็นต้องมีความอดทน สิ่งที่แนะนำนั้นล้วนเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพของเพื่อนๆทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่ามันเป็นการจำกัดชีวิต ที่น่าเบื่อ แต่ควรคิดว่าเป็นการนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิตอย่างโตชิบาจะเหมาะกว่า 





แหม่.... ดูคำถามแล้ว ให้เลือกจากข้อ 1 - 10 นี่เกือบจะครบทุกข้อนะครับ 
นุชาพอทราบสาเหตุละครับ น่าจะเกิดจากนอนดึกติดต่อกันนาน ความเครียด ชอบทานอาหารเย็นๆ ด้วยครับ

เดี๋ยวนุชาลองทำตามที่หมอเชนแนะนำแล้วจะนำมาอัพเดต ในตอนที่ 2 ให้ทราบกันเร็วๆ นี้นะครับ 
ว่าได้ผลหรือไม่อย่างไร ถ้ายังไม่ได้ผล คงต้องหาหมอดูแล้วครับ





แหล่งอ้างอิง
http://aunlamun.exteen.com/20071202/entry

No comments:

Post a Comment