Saturday, August 16, 2014

ถามตอบ : สบู่ -โฟม ล้างหน้ารักษาสิวได้จริงหลอ

สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆ คน วันนี้นุชาจะมาตอบคำถาม และพูดคุยเกี่ยวกับ ประเด็นที่หลายๆ คนถามเข้ามาในอินบล็อค ซึ่งส่วนมากจะเป็นน้องๆ มัธยมที่ เข้าใจว่า แค่สบู่ หรือ โฟมล้างหน้า จะสามารถรักษาสิวได้หรือไม่



เมื่อวันก่อน มีน้องคนนึง อินบล็อคเข้ามาในแฟนเพจ และ อินบล็อคทางเฟสส่วนตัวของนุชา ซึ่งตั้งคำถามประเด็นเดียวกันเลยครับ ได้ถามนุชาว่า "พี่นุชา หนูใช้สบู่ล้างกน้า และโฟมล้างหน้ามา 4 เดือนแล้วสิวไม่หายเลยคะ พี่พอโฟมหรือสบู่ที่ทำให้สิวหายได้แนะนำหนูไหมค่ะ"


เป็นคำถามที่นุชาเคยถามตัวเองตอนช่วงเป็นสิวเริ่มแรกเหมือนกัน เพราะตัวเองก็เคยเห็นโฆษณาทีวี เห็นพรีเซนเตอร์บอกว่า แค่ล้างหนเาก็ลดสิว แต่ในทางปฏิบัติตามความเป็นจริง ไม่ใช่เลยครับ เพียงแค่โฟมล้างหน้า หรือ สบู่ สำหรับนุชาแล้ว แทบไม่มีผลทำให้ลดการเกิดสิวเลยครับ นุชาให้ความเห็นว่า

"การใช้แค่สบู่ หรือ โฟมล้างหน้า ไม่สามารถรักษาสิวให้หายได้ครับ "


แต่อย่างไรก็ตาม ตามจุดประสงค์ของการใช้สบู่ หรือ โฟมล้างหน้าแล้ว เพื่อทำความนสะอาดสิ่งสกปรก ซึ่งสิ่งสกปรกนั้นมีส่วนทำให้เกิดสิวได้ครับ ดังนั้น การรักษาสิวให้ได้ผลดีควรเลือกผลิตภัฑณ์ ที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง คนผิวมันก็ใช้แบบคนผิวมัน คนผิวแห้งก็ใช้แบบผิวแห้ง และออกแบบมาสำหรับคนเป็นสิว 

การล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ ที่เป็นสคับสำหรับขัดผิว ไม่เหมาะสมสำหรับผิวเป็นสิวอย่างยิ่งเพราะจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และผลิตภัณฑ์ที่นุชาแนะนำให้ใช้ควรมีค่า PH 5.5 ครับ


http://www.sebamedthai.com/images/skin/skin1.jpg

ค่า pH 5.5 มีประโยชน์อย่างไรต่อผิวหนัง 

ผิวหนังที่มีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ นั้นจะมีหน้าที่ปกป้องผิวจากปัญหาต่างๆหลายประการ โดยเป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่าสภาพความเป็น
กรดอ่อนๆ บนผิวจะช่วยควบคุมสมดุลการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ประจำถิ่น (microflora) และคอยป้องกันไม่ให้จุลทรีย์ที่เป็นอันตรายต่อผิวเจริญเติบโตได้ 

อย่างไรก็ตาม ขบวนการเผาผลาญของจุลินทรีย์จะก่อให้เกิดสารเคมี 
ซี่งจะทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์และเป็นสาเหตุหลักของการเกิดกลิ่นกาย เพื่อลดปัญหาดังกล่าวนี้ และยับยั้งการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วหรือการสะสมของสารซี่งอาจจะก่อให้เกิดภูมิแพ้หรือแม้กระทั่งสารพิษที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญของเชื้อจุลินทรีย์ ดังนั้นการทำความสะอาด ผิวหนังอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ควรพยายามหลีกเลี่ยง การใช้สารฆ่าเชื้อโรค เนื่องจากจะทำให้เกิดการดื้อของเชื้อได้แล้ว อาจมีผลต่อการทำลายจุลินทรีย์ประจำถิ่น (Microflora) ไปอีกด้วย


สภาพกรดซึ่งเป็นปราการป้องกันตามธรรมชาติของผิว

http://www.sebamedthai.com/images/skin/skin3.jpg


ตราบใดที่ผิวหนังยังปกคลุมด้วยจุลินทรีย์เจ้าถิ่น (Micro flora) ก็แทบไม่มีโอกาสที่เชื้อโรคทั่วไปจะเข้าไปฝังตัวและเติบโตได้ เพราะในสภาวะที่เป็นกรดอ่อนๆ ตามสรีรวิทยาของผิวหนัง จุลินทรีย์ที่ไม่เป็นอันตราย หรือจุลทรีย์เจ้าถิ่นซึ่งมีอยู่บนผิวหนังเป็นปกติเหล่านี้จะสามารถเจริญเติบโตและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่มักชอบอยู่ในสภาวะเป็นกลางอยู่แล้ว ระบบป้องกันตามธรรมชาติของผิวหนังจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อได้รับการดูแลและทำความสะอาดด้วย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีค่า pH 5.5 แต่จะเสื่อม หรือถึงขั้นถูกทำลายเมื่อสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ที่มีค่าเป็นกลางหรือเป็นด่าง ค่า pH บนผิวหนังที่สูงขึ้นหลังการชำระล้างหรือใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีค่า pH ที่ 6 หรือสูงกว่าจะเพิ่มอัตราการเจริญเติบโต ของเชื้อโรค อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของผิวหนังได้อีกด้วย



ดังนั้นเมื่ออ่านจบแล้ว จะเห็นได้ว่า เพียงแค่สูบ่ล้างหน้าเพียงอย่างเดียว ไม่ส่งผลต่อการรักษาสิวหรือช่วยลดจำนวนสิวอะไรมากมายนัก หากเป็นสิวในควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาร่วมด้วยจะทำให้การรักษาาสิวมีประสิทธิภาพและหายจากสิวได้ครับ


แหล่งอ้างอิงข้อมูล
ค่า pH 5.5 มีประโยชน์อย่างไรต่อผิวหนัง ข้อมูลจาก > http://www.sebamedthai.com/skin_ph55.php



นุชา
16 สิงหาคม 2557
กรุงเทพ ฯ


ฝากกดไลท์เพจรักษาสิว เรื่องสิว เรื่องบ้านๆ ด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/Diaryhome

ติดตามบล็อกการรักษาสิว ของนุชา
http://happyacne2you.blogspot.com/

ดู VDO ทาง YOUTUBE เพื่อการรักษาสิวที่นี่
http://www.youtube.com/channel/UC6yq9nAdCU1wWu8d1WxRREw/videos

สบู่รักษาสิว, สิว, รักษาสิว, การรักษาสิว, สิวหายขาด, สิวเรื้อรัง, สิวหายได้, สิวอุดตัน, สิวเห่อ, 

No comments:

Post a Comment